Tuesday, November 22, 2016

ปู่ขอแจมด้วย "พล่าน" กันจนผิดสังเกตุ.!!!!

ปู่ขอแจมด้วย

"พล่าน" กันจนผิดสังเกตุ.!!!!

เริ่มจาก "ไพบูลย์ นิติตะวัน" ออกมาชี้นำ "อัยการ" ว่าต้องสั่งฟ้องคดีหลวงพ่อวัดใหญ่..

มิเช่นนั้น..จะถือว่าเป็นมวยล้มต้มคนดู..

ซ้ำรอยคดีปี 2542

และเมื่ออัยการสั่ง "เลื่อนนัด" เป็น 30 พย. ปลายเดือนนี้..

ก็ถึงคิวของ "ไพบูลย์ คุ้มฉายา" ออกมาโวยว่ามีคน.. เตะถ่วง

เพราะ "ลูกน้อง" ตัวเองคือ DSI ส่งสำนวนให้อัยการไปหมดแล้ว..

ทำไม "อัยการ" ถึงยังไม่สั่งฟ้อง.???

นี่ถ้าคดี "ธวัชชัย อนุกูล" ท่าน "ขยัน" แบบนี้.. คงจับ "ฆาตกร" ได้นานแล้ว.!!!!

ถึงแม้ทั้งสอง "ไพบูลย์" จะแทคทีมกันแล้วแต่ "กระแส" ก็ยังไม่ดีขึ้น..

จึงจำเป็นต้องให้ "ธรรมนูญ อัตโชติ" พาสมาชิกสหกรณ์ที่ "หลงเชื่อ" ว่าเงินยังอยู่ที่ธรรมกายมาช่วยกัน "ถือป้าย"

เรียกร้องความ "เห็นใจ" จากสังคมว่าโดน "ธรรมกาย" โกงเงินไปจนต้องหมดเนื้อหมดตัว..

สร้างกระแส "ดราม่า" เป็นภาคต่อจาก "บิ๊กต๊อก"

แล้วเพื่อให้หลวงพ่อดูเป็นผู้มี "อิทธิพล" จนแม้แต่ "หมายจับ" ยังทำอะไรไม่ได้..

"ศรีวราห์" จึงต้องใช้ "วิฑูรย์ ชลายนนาวิน" อดีตรองอธิบดีป่าไม้ที่โดน "ไล่ออก" จากคดี "ทุจริต" 

"เซ็นรับรอง" ว่า เวิลด์พีซ วัลเล่ย์ เขาใหญ่.. รุกล้ำเข้าไปในเขตป่าไม้ 

เพื่อขอ "หมายจับ" ฉบับที่สาม.!!!

"ปกติ" หากมีการรุกล้ำเขตป่าไม้จริง.. ก็แค่เรียก "เจ้าของ" มาแล้วสั่งให้รื้อถอน..

หาก "ฝ่าฝืน" จึงค่อยดำเนินการตาม "ขั้นตอน" ไปเป็นลำดับ.!!!!

แต่ "ศรีวราห์" เร่งรัดออกหมายจับโดยมิเคย "แจ้ง" หรือ "เตือน" เหมือนประหนึ่ง "จ้อง" รอคอยโอกาส..

จึงมิรู้ว่า.. "รุกล้ำ" หรือหวัง "สร้างข่าว" เพราะก็ใกล้วันที่ "อัยการ" จะสรุปคดี

และมาวันนี้.. ขาดมิได้กับ "เจ้าเก่า" ขาประจำ "ปู่อิสระ" แห่งอ้อน้อย..

พญาราชสีห์แห่งแจ้งวัฒนะ.. เจ้าของฉายา "กรวยศักดิ์สิทธิ์" ขยับ จับ ตาย..

ก็ตามออกมา "โหนกระแส" กับเขาด้วย ประหนึ่งกลัวว่า "ญาติโยม" ทั้งหลายจะหลงลืม.. 

เพราะเส้นทางไป "อ้อน้อย" ช่วงนี้ "เงียบเหงา" ไม่หนาแน่นเหมือนยุคที่รุ่งเรือง

ล่าสุดก็ "มะนาว" นายมโน เลาหวณิช "ศิษย์ทรยศ" แห่งเส้าหลิน..

ผู้ขอตาม "จองเวร" กับธรรมกายจนกว่าจะหมดลมหายใจ..

ก็จะนำ "เดินขบวน" ไปร้องเรียนท่าน "นายก" ในช่วงที่บ้านเมืองกำลังเศร้าโศกเสียใจ..

ก็หวังว่าคงจะไม่โดน "ลุงตู่" ทุ่มออกมาจนหัวร้างข้างแตกนะ.!!!!

ทั้งหมดนี้ก็คือ "หน้าตา" ของขบวนการที่จ้องล้ม "ธรรมกาย" 

"แบ่งงาน" กันทำคนละหน้าที่ แต่มี "เป้าหมาย" เดียวกัน.. ซึ่งครั้งนี้ก็ "ดาหน้า" กันออกมาหมด..

ประหนึ่งว่าจะได้ "สัญญาน" อะไรบางอย่างซึ่งคงไม่เป็น "ผลดี" ต่อฝ่ายตน..

จึงพอ "คาดเดา" ได้ว่า "ลูกศิษย์" ทั้งหลายของ "หลวงพ่อ" อาจจะมีเฮในตอนปลายเดือนนี้ก็เป็นไปได้

ขอบคุณภาพจาก มติชน ออนไลน์

Cr.  กึ่งศตวรรษ..-เห็นมา เล่าไป
Cc. แวดวงวัด

อ. ชูพงศ์ - ดร. เพียงดิน 22 พ.ย. 2559 ตอน การล้มเจ้า กับ ภาวะเปลี่ยนผ่านที่อลวนอลเวง

. ชูพงศ์ - ดร. .เพียงดิน 22 .. 2559 ตอน การล้มเจ้า กับ ภาวะเปลี่ยนผ่านที่อลวนอลเวง

https://youtu.be/8hQ-P5hi-e4

https://youtu.be/nr2xzedRWEs

https://youtu.be/WU0JilKY-z8

https://youtu.be/m-NHjdnEaeE


****************************

หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt 


หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก






Monday, November 21, 2016

ยุทธศาสตร์ 8 ข้อของเครือข่ายอำนาจเก่าในการทำลายประชาชนคนอีสาน และคนไทยทุกภาคส่วน !

ยุทธศาสตร์ 8 ข้อ      ของเครือข่ายอำนาจเก่า
      ในการทำลาย
    ประชาชนคนอีสาน 
และคนไทยทุกภาคส่วน !
____________________

 ทำไม ขบวนการอำนาจ
เก่า  ?
ต้องทำลายการ เจริญเติบโตของคนอีสาน
และประชาชนคนไทย
ทุกภาคส่วน !
ตำตอบ                                1 . เพราะคนอีสาน
มีชุดความคิดที่ก้าวหน้า
ในทางการเมืองการ 
ปกครอง !  นักคิด นักเคลื่อนใหวในอดีตมีจำนวนมากมายที่เป็นบุคคลสำคัญ
เช่น ครูเตียง ศิริขันธ์
ขุนพลภูพาล ครูครอง
จันดาวงศ์ นักสู้ครูประชา
บาล แม้กระทั่ง คุณ จิตร
ภูมิศักดิ์ ก็ยังยอมไปตาย
ชายป่า เพื่อคนอีสาน รวม
ทั้ง 4 รัฐมนตรีที่ยอม
พลีชีพ เพื่อชาติและประ
ชาชนคนไทย นอกจากนักต่อสู้เพื่อ ประชาชนที่ได้กล่าวนาม
มาแล้วทั้งหมดแล้ว
ยังมีวีรบุรุษ ประชาชน
อีสานอีกจำนวนมากมาย
ที่ประวัติศาสตร์ ไม่ได้
กล่าวถึง อีกมากมาย ทุกท่านยอมตาย
เพื่อ อิสระ เสรีภาพ เพื่อ
การ อยู่ดีกินดี เพื่อประชา
ธิปไตย ของคนไทยทั้ง
ชาติ
2. อีสานเป็นต้นทางแห่ง
ความเจริญด้านศาสนาพุธ
และจะเป็นจุดกำเนิด
ของพระศรีอารย์
เป็นการทำลายการสร้าง
ความเชื่อของการครอบ
งำ ศาสนาพุธอธิบายได้
ในวิธีคิดในทาง วิทยาศาสตร์
3.อีสานมีพื้นทีใหญ่โต
มีผืนแผ่นดินว่างเปล่า
มามาย ข้อสำคัญมีทรัพ
ยากรทางธรรมชาติ
ที่อยู่ใต้ดินอีกเป็นจำนวน
มาก
4.จุดกำเนิดของ ผู้นำประ
ชาชนคือ การกลับมาของ
มังกรอีสาน และขบวนการ
มังกรอีสาน คือขบวนการ
เปลี่ยนแปลงประเทศ
ในช่วงหลังการผลัดแผ่น ดิน 
5. หลังการผลัดแผ่นดิน
ขบวนการของ มังกรอีสาน
จะปรากฏภาพชัด ในการ
นำพาประเทศสู่การเปลี่ยน
แปลง และประเทศไทย
จะมีเมือง แฝด 3 เมือง
สำคัญ เกิดขึ้น คือ
1ธนบุรี เมืองพี่
2 รัตนโกสินทร์ เมืองน้อง
3 เมืองใหม่ จะมีจุดเริ่มต้น   จากหัวมังกร ตัวล่าสุด โดยเริ่มจากกรุงเทพ
ตะวันออก ถนน แจ้งวัฒนะ
รามอินทรา  ลากยาวสู่
จังหวัด นครนายก 
พาดเข้าบริเวณลำตัว
ของมังกร เข้าสู่ จ.ปราจีน
บุรี ผ่านเขาใหญ่ วังน้ำเย็น
เข้าสู่ประตู อีสาน จ.นคร
ราชสีมา จนเกิดความเจริญ รุ่งเรือง
ไปทั่ว อีสาน เปรียบเสมือนปลายหาง
ของมังกร
  ประเทศไทยจึงก้าว
เข้าสู่ยุคของ มังคู่แผ่นดิน
ทองแผ่นดินธรรม ประชา
ชนจะมีความสุข สยาม
เมืองยิ้มจะกลับมา
6.อิธิพลของความ
เจริญเติบโต ในทาง 
เศรษฐกิจ สังคม การเมือง
ศิลปวัฒนธรรม การศึกษา
ศาสนา สาธาระณะสุข
ในภาคอีสานจะแผ่ขยาย
ไปทั่วแผ่นดินไทย

   ด้วยเหตุผลดังกล่าว
ขบวนการอำนาจเก่า
อันประกอบไปด้วย ขุนนาง อำมาตย์ และ
เครือข่าย จึงเกรงกลัว
การสูญเสีย อำนาจและผล
ประโยชน์ ส่วนตน
จึงออกแผน 8 ยุทธศาสตร์
ในการกำจัด ขบวนการ
ของมังกรอีสาน
และปิดกั้น
การผลัดแผ่นดิน ด้วย
 8 ยุทธศาสตร์ ดังนี้
1.มอมเมา ทำลาย สร้าง
ทัศนคติ ล้างสมอง เพื่อทำลายอนาคตของ
ชาติ ทำลายการศึกษา
2.ทำลายเศรษฐกิจ สร้าง
ความยากจน ทำลาย
ความเจริญเติบโต
3.สร้างแหล่งบันเทิง
โดยการนำเครือข่าย
ของ อำนาจเก่าเข้าไปสร้างกระ
แสทำลาย ชีวีต ทำลาย
ความเชื่อในประเพณี วัฒนธรรม มอมเมา
ประชาชนทุกรูปแบบ
3.ส่งเครือข่ายของ
อำนาจเก่าเข้าไปเป็นผู้นำ
ท้องถิ่น ควบคุมการรวม
อำนาจ
4.สร้างเครือข่าย ซื้อตัว
ผู้นำระดับชาติ เพื่อตอบ
สนองนโยบายของ
อำนาจเก่า
5.สร้างศูนย์ รวมอำนาจ
ผ่านกลไกรัฐ
6.เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่น
คงเป็นเครือข่าย ของ
อำนาจเก่า
7.ผูกขาดเศรษฐกิจ
สร้างระบบส่วยและสัมประทาน 
8.ยึดกุมอำนาจการปก
ครองและการเมือง
สร้างขบวนการ ใส่ร้าย
สร้างข่าวลือ สร้างข่าว
เท็จ สร้างความเชื่อ
เพื่อทำลาย คนอีสาน
   8 ข้อ คือขั้นตอน
การทำลาย ชาติไทย
ทำลาย ประชาชน  คนอีสาน ! ทำลายกระแส
การเชื่อมโยงจากอีสาน
ไปยังเครือข่ายคนไทย
ทั้งชาติ !
    
      ฐิติ  ชัยนาม
      22/พ ย/59

Sunday, November 20, 2016

ดร. เพียงดิน รักไทย 21 พ.ย. 2559 สิ่งที่รัชกาลที่ 10 ต้องทำเพื่อความอยู่รอดและยั่งยืน

ดร. เพียงดิน รักไทย 21 พ.ย. 2559 สิ่งที่รัชกาลที่ 10 ต้องทำเพื่อความอยู่รอดและยั่งยืน

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก




รำลึก ศ.ดร. ลิขิต ธีรเวคิน - วิพากษ์ รัฎฐาธิปัตย์และวิกฤตประชาธิปไตย (คม ชัด ลึก)

รำลึก ศ.ดร. ลิขิต ธีรเวคิน - วิพากษ์ รัฎฐาธิปัตย์และวิกฤตประชาธิปไตย  (คม ชัด ลึก)





ไทย ฆ่าไทย ให้อิสลาม ครอง ....จริงหรือ?

ใครปั่นหัวคนไทยให้ทะเลาะกัน … .. .ใครกำลังเชียร์.. ?
พระพุทธศาสนาในประเทศไทย กำลังถูกผลักไสให้เดินทางเข้าสู่ความเสื่อมสูญ .?

1. ในปี 2521 ดร.บุญสม มาร์ติน รมว.ศึกษาธิการ สั่งให้ตัดวิชาพระพุทธศาสนา และ วิชาศีลธรรมกับหน้าที่พลเมือง ออกไปจากหลักสูตรการศึกษาของประเทศไทย

2. ปี 2524 รัฐบาลเปรมฯ ออก พ.ร.บ.อิสลาม ในปี 2525 ออกกฎหมายเพื่อมุ่งให้ความคุ้มครองมุสลิมทั่วประเทศ

3. ปี 2532 รัฐบาลชาติชายฯ ขยายผลกฎหมายอิสลามอีกหลายมาตรา ทั้งให้ตัดวิชาประวัติศาสตร์ไทยออกไปจากหลักสูตรการศึกษาของประเทศไทย

4. ปี 2536 แต่งตั้งให้ผู้นำศาสนาอิสลาม นายอารีย์ วงศ์อารยะ เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย มีการออกกฎหมายใหม่ กำหนดให้คนไทยไม่ต้องแจ้งการนับถือศาสนาในทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน พร้อมทั้ง เชิญชวนข้าราชการมุสลิม เปลี่ยนชื่อ-สกุลให้เป็นไทย เวลาแต่งตั้งให้มีตำแหน่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการเพ่งเล็งของชาวไทยพุทธ

5. ปี 2537-2539 นายอานันท์ฯ ต่อต้าน.. "บัญญัติให้พุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติ ว่าเลือดจะนองท้องช้าง" ทั้งที่มีคนลงชื่อสนับสนุน 2 ล้าน 3 แสนคน??

6. ปี 2540 นายวัน มูฮะหมัดฯ รมต.ว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัยนั้น สั่งกำจัดพระพุทธรูปออกจากห้องประชุมกระทรวงฯ และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.อิสลาม อีกหลายมาตรา เช่น จุฬาราชมนตรีมีอำนาจเหนือนายกรัฐมนตรีไทย

7. ปี 2542 ประเทศไทยมีประธานกรรมาธิการศาสนาฯ ชื่อ เด่น โต๊ะมีนา เข้ามาเพื่อออกกฎหมาย "ล้วงย่ามพระ" และ "ฆราวาสปกครองพระ" ในรัฐบาลชวน

8. พ.ร.บ. ปฏิรูปการศึกษา ที่คนไทยหลงดีใจว่า ลูกหลานจะฉลาดขึ้นนั้นเกิดจากน้ำมือของคริสต์-อิสลามร่วมมือกันเขียนขึ้นมา ประธาน คือ ดร. กีรติฯ (คาทอลิค) รองประธาน คือ ดร. เกษมฯ (อิสลาม) เจตนาที่แท้จริง คือ กำจัดพุทธศาสนทายาทออกไป เนื่องจากเด็กจบ ป. 6 มีโอกาสบวชยาวมากกว่าเด็กจบ ม. 3 ผ.อ.ทุกโรงเรียน ให้ความร่วมมือดี เพราะได้ประโยชน์จากตำแหน่งและงบประมาณที่เพิ่มขึ้น ตามสึกสามเณรมาเข้าโรงเรียน สามเณรจึงหายไปกว่า 90% 

9. ปี 2545 พ.ร.บ.ธนาคารอิสลาม เกิดขึ้นด้วยเงินงบประมาณกว่า 1000 ล้านบาท การดำเนินงานขาดทุนทุกปี จนในที่สุด ต้องยุบเลิกธนาคารชาริอะห์ ของธนาคารกรุงไทย ที่มีกำไร เพราะธนาคารกรุงไทยดูแลอย่างใกล้ชิด และ ใช้งบประมาณสนับสนุนจำนวนมาก เพื่อมาควบรวมกับธนาคารอิสลามเหลือเพียงธนาคารอิสลามฯเพียงแห่งเดียวในปัจจุบัน

10. "Time" หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของโลก เปิดโปงแผน Dream State ที่อิสลามหวังยึดครองประเทศไทย โดยรุกทางการเมืองจากภาคใต้ ขยายผลให้มีการเลือกพรรคของตนใน กทม. และภาคตะวันออก โดยสนับสนุนการเงินผ่านธนาคารอิสลาม

11. เมื่อ 3 ม.ค. 2547 การปล้นอาวุธจากกองทัพได้เกิดขึ้น ขบวนการล่าหัวชาวพุทธเกิดตามมาอย่างถี่ยิบ ทั้งครู ตำรวจ ทหาร ประชาชน แม้แต่พระสงฆ์สามเณร ถูกฆ่าตายรายวันอย่างทารุณ รวมทั้งชาวไทยมุสลิมที่ไม่ช่วยส่งเสริมผู้ก่อการร้าย หรือ ไม่ช่วยก่อความไม่สงบ ก็จะถูกฆ่าตายไปในคราวเดียวกันนี้ด้วย มีการก่อวินาศกรรมทุกพื้นที่ ทั้งโรงเรียนและหมู่บ้านชาวพุทธถูกเผาเป็นว่าเล่น  และได้ปล่อยตัวผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่ และฟื้น ศอ.บต. 2 

12. ในวันที่ 19 ก.ย. 2549 พลเอกสนธิฯ ซึ่งเป็นมุสลิมคนหนึ่ง ปฏิวัติยึดอำนาจ ได้ทำการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นมุสลิมจำนวน 39 จังหวัด และแต่งตั้งกรรมาธิการศาสนา 11 คน เป็นคนมุสลิม 8 คน จากกรรมาธิการทั้งหมด 11 คน

13. การขยายมัสยิสไปทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ทุกตำบล ที่ต้องทำให้เสร็จภายในปี 2557 ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าเร็วเกินคาดมีผู้ให้ความร่วมมือมากขึ้นในทุกภูมิภาค ทั้งกลุ่มเสื้อแดง - เหลือง - น้ำเงิน ก็ถือโอกาสเพื่อได้แนวร่วม   
มี พ.ร.บ.ปกครองสงฆ์มาตรา 29 ให้อำนาจนายอำเภอจับพระสึกได้อีกชั้นหนึ่ง เนื่องจากมีนายอำเภอมุสลิมนับร้อย พร้อมใช้อำนาจนี้แล้ว

14. กฎหมายอิสลามอีกหลายๆ ฉบับ ตบเท้าทยอยกันออกมาอย่างรวดเร็ว เช่น
- พ.ร.บ.บริหารองค์กรอิสลาม
- พ.ร.บ. กิจการฮัจย์ 
- พ.ร.บ. อาหารฮาลาล พ.ร.บ.ปัตตานีมหานคร ที่ขยายผลมาจาก ศอ.บต. 2 รวม 5 จังหวัด ภายใต้นโยบายการปกครอง     
  พิเศษตามระบบอิสลาม
- พ.ร.บ.การเงินชุมชนในระบบอิสลาม (Islam Micro Credit)
- พ.ร.บ.ครอบครัวและมรดกระบบอิสลาม
- พ.ร.บ.การจัดตั้งสภาซูรอ
- พ.ร.บ.การจัดตั้งศาลชารีอะห์ ซึ่งใช้บังคับคนไทยทุกคนที่เกิดคดีความกับมุสลิมนับเป็นการกระทำที่เตรียมยกระดับไทย       
 ขึ้นเป็นประเทศอิสลาม ถึงกับมีการตั้งชื่อประเทศ "สยามมุสลิม" ที่พร้อมประกาศใช้ในอนาคต ฯลฯ

15. เม็ดเงินหลายหมื่นล้านบาท โอนผ่านธนาคารอิสลาม เพื่อใช้ซื้อที่ดินนับล้านๆ ไร่ ในทุกภูมิภาคของไทย หลายพื้นที่กำลังเร่งรีบปลูกยางพาราและข้าวบทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ เรื่องที่ 892 กระบวนการทำลายพุทธศาสนาในประเทศไทย จน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผ.อ.ดีเอสไอ ตรวจสอบพบและแถลงข่าวผ่านหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 4 ส.ค. 2552 ถึงกับถูกย้ายทันที

16. จัดตั้งพรรคการเมืองอิสลาม มีกรรมการบริหารพรรคชาวพุทธร่วมด้วย โดยมุ่งกลืนชาติไทยอย่างเลือดเย็น เพียงเห็นแก่เม็ดเงินที่โอนผ่านธนาคารอิสลามจำนวนมาก เช่น เดียวกับบางพรรค รับเงินไป แล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท??

17. มีการอพยพมุสลิมจากอาเจะ-อินโดนีเซีย จำนวนนับล้านคน กระจายเข้าไปอยู่ทุกจังหวัดเพื่อทำตามแผนการ พ.ร.บ. การเงินชุมชนอิสลาม ที่มุสลิมเท่านั้นมีอำนาจบริหารจัดการ โดยคนไทยอาจเป็นสมาชิกได้ ภายใต้กฎกติกาของเขา ซึ่งอาจต้อง เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามในโอกาสต่อไป เราจึงเห็นมัสยิตผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ในทุกจังหวัด ด้วยเงินงบประมาณของชาวพุทธ ดังที่นายดำรง พุฒตาล นำมาแถลงในรายการโทรทัศน์

18. หลายจังหวัดที่มีผู้ว่า-นายอำเภอมุสลิม ให้ชาวมุสลิมเช่าวัดร้างนับแสนไร่ เพื่อปลูกยาง พาราหรือสร้างมัสยิดได้ 30 ปี เพื่อรอยึดหรือบีบซื้อถูกๆ แบบที่เคยทำได้มาแล้ว

               บทความที่ได้ส่งมานี้นับเป็นเรื่องน่าเศร้ามากๆ ที่คนไทยกำลังถูกปั่นหัวให้ทะเลาะกัน โดยมีผู้ประสงค์ร้ายนั่งเชียร์ และคอยรอดูความหายนะชาติบ้านเมืองของเราอยู่  แผนมุสลิมยึดประเทศแบบนี้ต้องส่งต่อให้คนไทยรู้ทั้งประเทศนะ


ภัยอิสลาม ภัยคอมมิวนิสต์ ภัยเผด็จการราชาธิปไตย?

เดียรถีย์ครองเมืองจริงๆ
ใครว่าไม่จริงไม่ไช่แน่นอน
อิสลาม มันรัฐประหาร 2 ครั้ง ยังไม้รุ้ตัวอีก
ลัทธิคอมมิวนิสต์ก็อยากได้ประเทศไทย!
ลัทธิอิสลามก็อยากได้ประเทศไทย!
แต่ที่สุด ลัทธิคอมมิวนิสต์สู้ลัทธิอิสลามไม่ได้
...ลัทธิอิสลาม ทำรัฐประหารหลอก เมื่อปี2549
พอถึง 2557ลัทธิอิสลาม มันทำรัฐประหารจริง...
และสังเกตุไหม ผู้ว่า นายอำเภอ อบจ อบต มันรับลูกกันดีจัง...ทั้งๆที่โลกแบน มันยังรับอิสลาม ไปได้ลงคอ...

มันฉลาด ให้ลัทธิคอมมิวนิสต์ โยนหินถามทางไปก่อน 
และลัทธิอิสลาม มันจับไต๋ถูกว่า ลัทธิคอมมิวนิสต์อย่างไรเสีย ประชาชนรับไม่ได้แน่นอน 
...ที่สุดมันพลักคนไทยเสื่อแดงเอาเจ้าทุกคน ไปไว้ที่ลัทธิคอมมิวนิสต์ ว่ามึงคิดล้มล้าง สถาบัน กูลัทธิอิสลาม ต้องเข้ามาปกป้อง สถาบัน....
...ที่สุดลัทธิคอมมิวนิสต์ก็เสียรุ้ลัทธิอิสลาม...ลัทธิคอมมิวนิสต์กับแดงเอาเจ้ากลายเป็นผู้ก่อการร้าย...
ลัทธิอิสลามกลายเป็นพระเอก มาปกป้องสถาบัน...
....แม้แต่พระสงฆ์ไทย ที่รักสถาบันมากที่สุดกว่าใครๆ ลัทธิอิสลาม มันก็ยังพลักให้ไปอยู่กับลัทธิคอมมิวนิสต์ ว่าสถาบันสงฆ์ไทยคิดล้มล่างเจ้า...นายกทักษินกับแดงเอาเจ้า...รวม กลุ่มพระสงฆ์ที่รักสถาบันมากที่สุด มันก็ตบตาคนไทยว่า...คิดล้มล้าง สถาบัน...
นี้คือวาทะกรรม ที่ขุนนางมุสลิม มันสร้างวาทะกรรมให้แดงเอาเจ้ากับสถาบันสงฆ์ไทย...ตกอยู่ทีนั่งเดียวกัน...
....แล้วเราชาวไทยพุทธคน1...ก็ต้องมานั่งร้องให้กับหลายๆคน...ที่ยังไม่เข้าใจระบบวิธีคิดของ...ขุนนางมุสลิม...สุมหัวกับทหารมุสลิม...
.....ตาอินลัทธิคอมมิวนิสต์...ตานาระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตย์ทรงเป็นพระประมุข...ทะเลาะกัน รบกัน แก่งแย่งชิงดี ชิงเด่นกัน...ในที่สุด ตาอยู่คือ ลัทธิอสลาม มันมีทหารอยู่ในมือ พาไปแดกเฉย...โดยทุ่มเงินมหาศาล ไปสร้างมัสยิส ทั่วไทย อุดหนุดธนาคารอิสลาม ที่ล้มแล้วล้มอีก 2 ครั้ง แต่ไม่ทำอะไรไม่จับเข้าคุก แต่มันไปไล่บี้ ทักษิน กับ พระสงฆ์ เข้าคุก..เอวัง กูเอาตังค์มึงเอาคุก...อาเมร...

Saturday, November 19, 2016

อเนก ซานฟราน-เพียงดิน รักไทย 20 พ.ย. 2559 ตอน ล้มเจ้าแล้วได้อะไร? อนาคตรัชกาลที่ 10?

อเนก ซานฟราน-เพียงดิน รักไทย 20 พ.ย. 2559 ตอน ล้มเจ้าแล้วได้อะไร? อนาคตรัชกาลที่ 10? 

---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้ง?¸



ถ่ายทอดสด อเนก ซานฟราน และ ดร. เพียงดิน หัวข้อ: ทำไมต้องล้มเจ้า? และการสร้างประชาธิปไตยช่วงรัชกาลที่ 10?

อย่าพลาด 6:30 น. นาฬิกา เช้าวันอาทิตย์ เวลาเมืองไทย 20 พ.ย. 2559
พบกับ อเนก ซานฟราน และ ดร. เพียงดิน
หัวข้อ: ทำไมต้องล้มเจ้า? และการสร้างประชาธิปไตยช่วงรัชกาลที่ 10?
ทางสถานีมหาวิทยาลัยประชาชน/ เครือข่ายมดแดงล้มช้าง /นปช. ยูเอสเอ และเครือข่ายเปลี่ยนระบอบ





ศรีสุวรรณ โวยถูกคุกคาม-ปองร้าย หลังไล่ตรวจสอบอำนาจรัฐ |

ศรีสุวรรณ โวยถูกคุกคาม-ปองร้าย หลังไล่ตรวจสอบอำนาจรัฐ | 

18 พ.ย. 2559 รายงานข่าวแจ้งว่า ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกแถลงการณ์ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรื่อง  เลขาธิการสมาคมฯ ถูกคุกคาม ปองร้ายจากการทำหน้าที่ตรวจสอบอำนาจรัฐ

แถลงการณ์ระบุว่า ตามที่เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะพลเมืองที่ดีในการติดตาม ตรวจสอบ การใช้อำนาจรัฐ การบริหารราชการแผ่นดินของผู้มีอำนาจที่อาจไม่เป็นไปตามกฎหมายตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทุก ๆ รัฐบาล อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งอาจจะเป็นการขัดขวางอำนาจและผลประโยชน์ของผู้ประสงค์ร้ายต่อบ้านเมืองก็เป็นไปได้นั้น

ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากที่เลขาธิการสมาคมฯและชาวบ้านได้ยื่นฟ้องหน่วยงานภาครัฐต่อศาลปกครองกลาง เพื่อเพิกถอนแผน PDP2015 เสร็จแล้ว ได้นั่งรถส่วนตัวเดินทางกลับกันหลายคน แต่สังเกตเห็นว่า พอจะขึ้นรถมีชายนิรนามเดินเข้ามาถ่ายรูปเลขาธิการสมาคมฯ พร้อมกับมีรถยนต์ 2 คันได้ขับติดตามอย่างมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ขับรถจึงแสร้งเปลี่ยนเส้นทางรถ เพื่อสังเกตว่าจะยังคงถูกติดตามจริงหรือไม่ แต่ปรากฏว่ารถยนต์ทั้ง 2 คันดังกล่าวก็วกรถขับเปลี่ยนเส้นทางตาม ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปเส้นทางใด เลขาธิการสมาคมฯจึงตัดสินใจขับรถวกเข้า สน.บางเขน บริเวณอนุสาวรีย์หลักสี่ ซึ่งก็ปรากฏว่ารถยนต์ของผู้ขับตามเข้าไปใน สน.บางเขนเช่นกัน เมื่อทีมงานของสมาคมฯจอดรถและออกมาถ่ายภาพรถคันที่ตามดังกล่าว จึงทำให้ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวรู้ตัว จึงขับรถออกจาก สน.บางเขนหนีไป

กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นภัยคุกคามสิทธิ เสรีภาพ และสวัสดิภาพ และการทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองดีตามนโยบายของ หน.คสช. โดยตรง เลขาธิการสมาคมฯ จึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ สน.บางเขน พร้อมหลักฐานภาพถ่ายทะเบียนรถคันที่ติดตามดังกล่าวแล้ว ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่อาจคาดเดาเหตุการณ์ในอนาคตได้ ต่อการทำหน้าที่พลเมืองดีของเลขาธิการสมาคมฯที่มีต่อสังคมและประเทศชาติ อันมีลักษณะเป็นภัยมาใกล้เช่นนี้ อันสะท้อนให้เห็นถึงการยังคงมีพฤติการณ์ของการใช้อำนาจเถื่อน ข่มขู่ คุกคามประชาชนโยชัดแจ้ง กรณีที่เกิดขึ้นเลขาธิการสมาคมฯ จำต้องนำความรายละเอียดและหลักฐานไปยื่นขอความคุ้มครองจาก หน.คสช. และนายกรัฐมนตรี ในวันจันทร์ที่ 21 พ.ย. 2559  เวลา 11.00 น. ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (ศูนย์บริการประชาชน) ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล (ตึก กพ.เดิม) เพื่อขอความคุ้มครองจากหน.คสช. และนายกรัฐมนตรีต่อไป และหากเลขาธิการสมาคมฯถูกปองร้าย/ลักพาตัว/เสียชีวิต ก็เชื่อได้ว่ามีผลมาจากการตรวจสอบการทุจริตและประพฤติมิชอบของผู้มีอำนาจที่เลขาธิการได้ยื่นตรวจสอบไว้ต่อ ป.ป.ช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน และ สตง. ประการเดียวเท่านั้น

ท้ายที่สุดแล้ว กรณี เบส อรพิมพ์ คือภาพสะท้อนของ "สงครามตัวแทน" ที่ชัดเจน

Pairat Makbanbueng #มิตรสหายท่านนั้นกล่าว #มันใช่
:
ท้ายที่สุดแล้ว กรณี เบส อรพิมพ์ คือภาพสะท้อนของ "สงครามตัวแทน" ที่ชัดเจน นี่คือการปะทะกันครั้งแรกหลังการสวรรคต ที่ทุกคนพร้อมใจเข้าสู่โหมดสงบเงียบ และเพียงหลังหมด30วันช่วงไว้ทุกข์ ก็เปิดศักราชระหว่างทหารกับกลุ่มการเมืองทันที

เบสนั้นเป็นตัวแทนของคนที่ทำงานรับใช้ทหาร ที่เชื่อว่าทัศนคติของคนในภูมิภาคที่เป็น "พื้นที่สีแดง"มีความรับรู้ผิดพลาดต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่ต้องเข้าไป "ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง"อย่างเร่งด่วน

จะพูดให้ถูกคือทหารมีความเชื่อแบบนั้นมายาวนานแล้วตั้งแต่ก่อนรัฐประหารด้วยซ้ำ เพราะคลิปที่มหาสารคามที่ถูกขุดมานั้นเกิดเมื่อต้นปี 2559 และเบสบอกว่าถูกว่าจ้างตั้งแต่ปลายปี 2558 ในการ "ปลุกพลังความรักสถาบันหลัก" และยอมรับกลางรายการจอมขวัญว่า "ภาคอีสานคือภาคที่เบสไปบ่อยที่สุด"

ความไม่พอใจของคนภาคอีสานคือแรงสะท้อนความอึดอัดที่มีต่อทหาร ยิ่งพอตอนเบสหลุดมาหมดเลยว่าเป็นโครงการไอโอทหาร ระดับความคลั่งแค้นเพิ่มขึ้นมากขึ้นๆ

ลองไปไล่อ่านคอมเมนต์ข่าวเกี่ยวกับเบส จะเริ่มเห็นคอมเมนต์โยงไปถึงกองทัพในฐานะผู้ว่าจ้างว่า "มีทัศนคติต่อคนอีสานอย่างไรกันแน่?" ล้มเจ้า? รักทักษิณ? ถูกหลอกง่าย? ไม่เข้าใจประชาธิปไตย(แบบคสช.)?

เพราะอีสานเป็นพื้นที่ที่ทหารไม่เคยเจาะได้ แม้แต่การทำประชามติที่เรียกได้ว่าคุมเบ็ดเสร็จ บีบเบ็ดเสร็จก็ยังชนะไม่ได้ แดงเถือกกันเกือบทั้งภาค ทหารจึงคิดว่าควรทำอย่างไรให้ "ปรับทัศนคติ"คนอีสานได้ ใช้ไม้แข็งไม่สำเร็จ ลองใช้ soft power (ที่ไม่ซอฟต์)แบบจ้างนักพูดไปไหม (ไม่ต่างจากบทบาท สมัคร-ดุสิต-ทมยันตีในหกตุลาฯ ที่ต้านคอมฯ)

พ.อ.วินธัยรีบออกมาปฏิเสธความสัมพันธ์ของกองทัพกับเบส แต่มีการขุดภาพขุดคลิปมาเรื่อยๆ เรื่องนี้ต้องจับตา อย่าให้กองทัพเทเบสเขี่ยเบสทิ้งเป็นแค่หมากตัวหนึ่ง แต่มันหมายถึงทัศนคติอันตรายของกองทัพต่อคนส่วนหนึ่งของประเทศที่ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

นี่คือเหตุผลที่ผมสนใจเคสของเบสมากกว่าพวกน็อต กราบรถกู หรือสมเถา แร้งแอร์เพราะพวกนั้นคือแรงปฏิกิริยาฉับพลัน ไม่ได้มีการวางแผนและคาดหวังผลล่วงหน้า.

แต่กรณีเบสนั้น ผ่านการจัดตั้ง การวางแผนมาอย่างดี อย่างที่เธอบอกว่าได้รับบรีฟเสมอก่อนที่จะไปพูดในแต่ละที่ "นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ"

ดร. เพียงดิน รักไทย 19 พ.ย. 2559 ตอน สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ นำการสร้างประชาธิปไตย

ดร. เพียงดิน รักไทย 19 พ.ย. 2559 ตอน สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ นำการสร้างประชาธิปไตย

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก






Friday, November 18, 2016

เปิดแผนลับการปฏิวัติ ของขบวนการอำนาจเก่า 3 ครั้ง ซ้อน ที่ล้มเหลว ! ในฤกษ์การปฏิวัติ ปี 59 !

เปิดแผนลับการปฏิวัติ
ของขบวนการอำนาจเก่า
 3  ครั้ง ซ้อน ที่ล้มเหลว !
 ในฤกษ์การปฏิวัติ ปี 59 !
___________________

ความพยายามอย่างยิ่ง !
ของขบวนการอำนาจเก่า
   ที่ต้องการยึดอำนาจ
เพื่ิอนำพาประเทศกลับไป
สู่การปกครอง ของขบวน
การอำนาจเก่า มีด้วยกัน
ถึง 3 ครั้งซ้อน ในปี 59
 ครั้งที่ 1  วัันที่ 25 ก ย 59
 ครั้งที่ 2  วันที่ 23 ต ค 59
 ครั้งที่ 3  วันที่ 18 พ ย 59
โดยการสร้างสถานการณ์
สำคัญให้เกิดกระแสความ
ชอบธรรมในการยึด อำนาจ โดยวิธีการดังนี้
1.ปล่อยกระแส โจมตี
สร้างข่าวเท็จ ปล่อยข่าว
ลวง ใส่ร้าย ป้ายสี 
2.กดดัน ประชาชน
พรรคการเมือง เครือข่าย
ประชาธิปไตย ต่างๆๆ
ผ่านเครือข่าย
ของขบวนการอำนาจเก่า
ด้วยวิธีการในทาง กฏหมาย สังคม สื่อต่างๆๆ
3.ระดมทุนจากเครือข่าย
อำนาจเก่าจากภาคเอกชน
 เตรียมการด้านกองกำลัง
4.สร้างกระแสมวลชน
ยืมมือ ชี้นำประชาชน
และสร้างกระแสการปฏิวัติ
ให้เป็นเครื่ิงมือในการ เคลื่อนใหว !
เพื่อสร้างปัจจัยในความ ชอบธรรมของการยึดอำ นาจเพื่อรักษาผลประ โยชน์ในเครืิอข่าย
       18 พ ย 59
     ฤกษ์การปฏิวัติ ! ความพยายามครั้งสุดท้าย
ก่อนจบสิ้นขบวนการ  อำนาจเก่าและเครือข่าย
ที่พยายามเชื่อมโยงสร้าง
กระแสความนิยมให้กับ
ผู้นำทางการเมือง โดยการเชื่อมโยงชัยชนะ
ของ ฮิลลารี่ กับผู้นำการ
เมืองไทย ของขบวนการ
อำนาจเก่า
 แต่ผิดพลาด พลิกฟ้า พลิกแผ่นดิน ทุกอย่าง
ล้มเหลว อย่างสิ้นเชิง
เป็นผลพวงจากการกระทำ
ที่ผิดพลาดจากขบวนการ
         อำนาจเก่า ! ที่ต้องชดใช้กรรมใน ปี 60
กันอย่างถ้วนหน้าทุกคน

        ฐิติ  ชัยนาม
        18/พ ย/59

บิ๊กตู่ (หน้าด้าน) ลั่นเป็นผู้นำเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย ...ถามว่าหลักประชาธิปไตย มีอะไรบ้าง?

บิ๊กตู่ ชี้ไทยประเทศแห่งความสุข ขอแค่ไม่ตีกัน ลั่นเป็นผู้นำเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย

นายกฯลงพื้นที่บริหารน้ำปทุมธานี ยันน้ำไม่ท่วมซ้ำรอยปี 54 เหตุรบ.ไม่ได้ปล่อยปะละเลย ย้ำไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมต้องปลูกข้าว พร้อมระบุไทยเป็นปท.มีความสุข แค่อย่าตีกัน

เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารนิเทศน้ำแลการเกษตร(สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิผู้ว่าฯกทม. และนายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่คลองระพีพัฒน์แยกตก บริเวณประตูน้ำที่ 8 อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่การเกษตร พร้อมพบปะประชาชนและรับฟังปัญหา โดยมีนายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าฯ จ.ปทุมธานี ให้การต้อนรับ

นายกฯได้กล่าวกับประชาชน โดยคำถามชาวบ้านซึ่งถามว่าน้ำจะท่วมเหมือนปี 2554 หรือไม่ โดยนายกฯกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ วันนี้โลกเปลี่ยนแปลง ในหลวงได้สร้างเขื่อนด้านบนไว้แล้ว ฝนตกเหนือเขื่อนจำนวนมาก ทำให้น้ำไหลลงข้างล้าง แต่ตอนบนแล้ง ซึ่งรัฐบาลกำลังจะแก้ปัญหาจะทำอย่างไรให้สามารถเก็บน้ำไว้ตอนกลางของประเทศได้ ขณะนี้แต่ละพื้นที่มีการบริหารจัดการน้ำที่ดี สามารถเชื่อมต่อน้ำจากคลองต่างๆ รวมถึงการใช้น้ำในการปลูกพืช

นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม อย่างไรก็ต้องทำนาปลูกข้าว แต่ต้องทำอย่างไรไม่ให้ปลูกกันตอนน้ำท่วม ซึ่งพื้นที่ตรงไหนที่เป็นแก้มลิง ต้องมีการเสียสละกันได้หรือไม่ รัฐบาลจะชดเชยให้ แต่ถ้าทุกคนต้องการปลูก พอน้ำท่วมรัฐบาลก็ต้อง มันก็จะท่วมอยู่แบบนี้ แต่รัฐบาลเสียเงิน ท่านก็ต้องเสีย แล้วคุ้มกันหรือไม่ ถ้าไม่ปลูกข้าว หรือปลูกพืชอื่น ถ้าน้ำท่วมก็เสียหายน้อยลง รัฐบาลก็ยังดูแลให้ อย่างนี้เรียกว่าช่วยกันทั้งสองฝ่าย เราเข้าใจทุกคนมีปัญหาหมด ทั้งปัญหาหนี้สิน ที่เฉพาะชาวนามีมากกว่างบประมาณแผ่นดินอีก ซึ่งรัฐบาลก็กำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ แล้วมีใครเคยมาทำให้ท่านหรือไม่ ไม่มี เพราะเขาไม่คิดหรอก เขาไม่รบกับใคร แต่ตนรบกับทุกคน รบเพื่อใคร ก็เพื่อคนทุกคน เพื่อเด็กๆที่วันหน้าจะเป็นผู้ใหญ่ จะให้เขาลำบากยากจนอย่างเราหรือ ตนกำลังคิดวิธีทำให้คนรุ่นหลังสบายขึ้น

@ ชี้ 80 ปี ประชาธิปไตย ระบบยังไม่เกิด

"ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก จำไว้ ไม่ต้องตีกันแค่นั้นแหละ มีความสุขแล้ว อย่างมากบอกว่ายากจน เพราะระบบมันไม่เกิด ผ่านมากี่ปีแล้วประชาธิปไตย 80 กว่าปี ระบบมันยังไม่เกิด แต่มันต้องเกิด และมันต้องมีประชาธิปไตย เข้าใจไหม ผมเข้ามาทำการเปลี่ยนผ่านตรงนี้เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นก็ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว ว่าจะเอาอย่างที่ผมพูด หรือจะเอาแบบเดิม ว่ายังไง จะเอาแบบไหน" นายกฯ กล่าว

จากนั้น นายกฯได้ เดินข้ามสะพานไปเพื่อตรวจดูระดับน้ำในคลองรพีพัฒน์ ก่อนที่จะเดินไปทักทาย เด็กนักเรียนชั้นอนุบาล จากโรงเรียนลำพระยา ที่มารอต้อนรับประมาณ 20 คน โดยนายกฯได้พูดคุยหยอกล้อกันเด็กอย่างเป็นกันเอง ซึ่งนายกฯ แกล้งถามเด็กๆว่า"รู้จักผมมั้ย" ซึ่งเด็กๆได้ตอบกลับมาว่า"รู้จัก นายกรัฐมนตรี " นายกฯจึงสอนเด็กๆว่าต้องพูด"ครับ ค่ะด้วย เป็นคนไทยต้องพูดให้ไพเราะ ครับ ค่ะ ขอโทษ ขอบคุณ และการไหว้ นี่คือความเป็นไทย และขอให้เป็นคนดีด้วย"

Thursday, November 17, 2016

ดร. เพียงดิน รักไทย 18 พย 59 นายกรัฐมนตรีไทย กับ กิจของราชวัง และยุคประชาพาไปมาถึงแล้ว

ดร. เพียงดิน รักไทย 18 พย 59 นายกรัฐมนตรีไทย กับ กิจของราชวัง และยุคประชาพาไปมาถึงแล้ว

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก

๙๙๙๙๙๙๙๙==============๙๙๙๙๙๙๙
คำถามสำหรับคนไทยทุกสีเสื้อ ก่อนชาติจะวายวอดด้วยน้ำมือคนไทยด้วยกันเอง
ดาวน์โหลดไฟล์นี้ได้ที่ 

ด้วยความปรารถนาดีเสมอ
ดร. เพียงดิน รักไทย

คำถามสำหรับคนไทยทุกสีเสื้อ ก่อนชาติจะวายวอดด้วยน้ำมือคนไทยด้วยกันเอง

คำถามสำหรับคนไทยทุกสีเสื้อ ก่อนชาติจะวายวอดด้วยน้ำมือคนไทยด้วยกันเอง
ดาวน์โหลดไฟล์นี้ได้ที่ 

ด้วยความปรารถนาดีเสมอ
ดร. เพียงดิน รักไทย



Wednesday, November 16, 2016

บัณฑิต อาณีญาญ์ ท่านผู้นี้ เป็นใครกันแน่?? อ่านบทความนี้แล้ว ท่านอยากสืบค้นต่อหรือไม่?

ความฝันภายใต้ดวงอาทิตย์ของบัณฑิต อาร์ณีญาญ์

ขอบคุณ เครดิต https://freedom.ilaw.or.th/112theseriesBandit
1.
ฉันรู้จักลุงครั้งแรกผ่านตัวหนังสือ "ความฝันภายใต้ดวงอาทิตย์" หนังสือกึ่งชีวประวัติของลุง ความยาว 562 หน้า ตอนนั้นฉันอยากทำหนังสารคดีที่เกี่ยวกับมาตรา 112 คิดแค่ว่าอยากทำในแบบที่เล่าเรื่องราวชีวิตมนุษย์ ไม่ใช่แค่ให้ข้อเท็จจริงและข้อมูลเชิงวิชาการ พี่ที่ไอลอว์เป็นคนแนะนำให้ฉันรู้จักคดีของลุง แล้วให้หนังสือเล่มนั้นมา ฉันตะลุยอ่านด้วยความรู้สึกผสมปนเปกันไปหมด ตอนนั้นฉันรู้แค่ว่าลุงถูกศาลตัดสินว่ามีอาการทางจิต แต่ในหนังสือหากไม่นับส่วนที่มีข้อความซ้ำหลายตอน บางตอนทำให้ฉันเศร้า บางตอนทำให้ฉันหัวเราะ และตอนจบทำให้ฉันร้องไห้
 
หนังสือเผยให้เห็นชีวิตของลุงที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ถูกกดขี่ ถูกเอารัดเอาเปรียบ แฝงด้วยลีลาการเล่าเรื่องเสียดสีประชดประชันแกมขบขัน และบางตอนก็ทำให้หลุดลอยเข้าไปในจินตนาการเหนือจริงของลุง  ขณะเดียวกันก็เห็นความจริงที่ลุงต่อสู้ดิ้นรน แสวงหาความรู้ ใช้ชีวิตอย่างซื่อสัตย์เท่าที่สภาพแวดล้อมจะเอื้ออำนวย แม้บางครั้งต้องทำชั่วเพื่อเอาชีวิตรอดลุงก็ยอมรับและเปิดเผยออกมาอย่างบริสุทธิ์ใจ
 
ที่น่าสนใจคือมุมมองของลุงที่มีต่อโลก ลุงมองลึกลงไปในใจของผู้คน กระชากหน้ากากภายนอกของพวกเขาออก เปลื้องให้เห็นถึงความจริงภายใน ลุงปฏิเสธสิ่งที่คนในสังคมปฏิบัติ นั่นคือการไม่ตั้งคำถามหรือวิพากษ์วิจารณ์กับหลายๆสิ่ง ลุงตั้งคำถามถึงความเหลื่อมล้ำในสังคมและการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรม
ฉันรู้ในทันทีว่าอยากทำสารคดีเกี่ยวกับลุง และไม่สำคัญเลยว่าใครจะตัดสินลุงว่าอย่างไร
 
520

บัณฑิตที่เชียงดาว 
2.
ฉันพบลุงครั้งแรกในศาลทหาร ชายชราผมสีดอกเลาตัดสั้นเรียบแปล้ เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงขากระบอกสีดำ และสะพายย่ามสีขาว ย่ามวิเศษที่ล้วงออกมาเมื่อไหร่มักเจอหนังสือยกชุดสี่เล่มของลุงที่ลดจาก 900 บาทเหลือ 200 บาทก็ยังไม่มีใครซื้อ
 
วันนั้นฉันและเพื่อนได้รับหนังสือมาฟรีคนละชุด เราไปนั่งคุยกันต่อที่ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ ลุงตัวจริงก็มีส่วนคล้ายกับหนังสือที่ฉันอ่าน แต่วันนั้นฉันได้เห็นความดื้อดึงบางอย่างในตัวลุง ฉันไม่ได้มองว่าเป็นข้อเสียไปทั้งหมด แต่คิดว่าถ้าลุงไม่ดื้อลุงก็คงไม่เป็นอย่างทุกวันนี้ อาจจะไม่โดนข้อหา 112 อาจจะไม่ต้องแยกทางกับครอบครัว แล้วก็อาจจะไม่ได้เขียนหนังสือ และถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงรู้สึกเสียดาย
 
ครั้งแรกที่ฉันไปบ้านลุงพร้อมแบกกล้องวิดีโอและขาตั้งกล้องไปอย่างพะรุงพะรัง ลุงลุกจากเก้าอี้ไม้ตัวโปรดข้างชั้นวางของ คะยั้นคะยอให้ฉันดื่มกาแฟที่ลุงชงให้
ห้องของลุงเรียบง่าย โล่งตา ดูสะอาด และไม่มีเตียงนอน แต่มีหนังสือกองโตที่ลุงเขียน เอกสารเกี่ยวกับคดีและเรื่องสั้นที่ลุงแปลบ้างแต่งบ้าง วางอยู่ในกล่องอย่างเรียบร้อย แต่ลุงมักบ่นว่าหาอะไรก็ไม่ค่อยเจอ ที่โต๊ะทำงานมีเครื่องพิมพ์ดีดรุ่นเก่าแก่แต่ยังใช้การได้ดีวางอยู่ ข้างๆ เป็นดิกชันนารี่อังกฤษ-ไทยเล่มใหญ่ และปึกกระดาษเรื่อง Father and son ของ Ivan Turgenev นักเขียนชาวรัสเซีย ฉันถามว่าทำไมลุงถึงแปลเล่มนี้
 
"มันก็มีส่วนคล้ายชีวิตผมเหมือนกันมั้ง เรื่องนี้พ่อกับลูกก็ขัดแย้งกัน คล้ายๆ เตี่ยกับผม" ลุงเล่าด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทั้งที่ในอดีตความขัดแย้งระหว่างลุงกับพ่อของลุงคงไม่อาจใช้คำบรรยายว่าราบเรียบได้
 
"ผมมาเมืองไทยตอน 6 ขวบ มาพร้อมแม่กับย่า มาอยู่โคราช เตี่ยผมมีเมียน้อยอยู่ที่นี่ ตอนเด็กๆ ผมเห็นเตี่ยตีแม่ผมด้วยด้ามไม้กวาดบ้าง ไม้ขัดหม้อบ้าง บางทีก็รองเท้ายางหนาๆ แม่เลี้ยงก็ใช้ให้แม่ผมทำงานหนัก สุดท้ายแม่ผมโดนคนข่มขืนจนท้อง ถูกเตี่ยส่งไปอยู่ที่โรงพยาบาลโรคจิตแล้วก็ตายในฐานะเป็นคนไข้อนาถา"
 
เมื่อได้คลุกคลีกับลุงนานเข้า ฉันจึงเข้าใจถึงความเจ็บปวดคับแค้นแสนสาหัสของลุงในเรื่องนี้ และเข้าใจได้ว่าทำไมงานเขียน ความคิด และการแสดงออกของลุง จึงมักอยู่กับเรื่องความไม่เป็นธรรมในสังคม และการกดขี่จากผู้มีอำนาจสูงกว่า
 
ผลงานการเขียนและการแปลของลุงมีเกือบ 50 เล่ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสั้นของ บี.ทราเวน นักเขียนชาวเยอรมัน หรือนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่น ผลงานขอ
งลุงส่วนใหญ่จัดพิมพ์โดยเพื่อนสนิทที่คบหากันมานานหลายปี บางเล่มก็พิมพ์เอง น่าเสียที่ผลงานของลุงมักขายไม่ออกและต้องเอามาขายเลหลังเล่มละไม่กี่บาท
"หนังสือผมมันไม่มีคนอ่าน พิมพ์ไปก็ขายไม่ออก" ลุงพูดเปรยๆ ขึ้นมาในบางครั้ง นอกจากเรื่องนี้ลุงก็ตัดพ้อด้วยความน้อยใจว่าผลงานของแกถูกคนอื่นขโมยไปใส่ชื่อแล้วตีพิมพ์ 
 
แต่ความท้อใจก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไฟในการผลิตผลงานของลุงได้ พอฉันเจอลุงในวันต่อมา ลุงก็ยื่นเรื่องสั้นเรื่องใหม่ที่เพิ่งแต่งจบให้ฉันอ่าน แล้วถามอย่างกระตือรือร้นว่าเป็นอย่างไรบ้าง บางโอกาสเราถกเถียงกันเรื่องการเมือง สังคม ศาสนา ไปจนถึงชีวิตและวิธีคิดในบางประเด็น ความคิดเห็นของเราขัดแย้งกันบางเรื่อง แม้ลุงจะยึดมั่นในความคิดของตัวเองอย่างแน่วแน่ แต่ลุงก็ฟังความคิดเห็นของฉันเสมอ
 
ตอนนี้ลุงอายุ 75 ปี อาศัยอยู่คนเดียวบนชั้นสามของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในย่านหนองแขม ลุงเคยเป็นโรคต่อมลูกหมากโตและมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ต้องตัดไตออกข้างหนึ่งรวมทั้งกระเพาะปัสสาวะด้วย แทนที่ด้วยถุงปัสสาวะที่ต้องใส่ติดตัวตลอดเวลา แต่ภายนอกลุงยังดูแข็งแรงเดินเหินปกติ ทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว เดินทางไปตามงานเสวนาที่ต่างๆ เป็นประจำ สะพายย่ามคู่ใจที่ภายในมีหนังสือ เรื่องสั้น หรือเอกสารเกี่ยวกับคดีของแก บ้างก็แจกจ่าย บางทีโชคดีก็ขายได้
 
3.
"ผมสงสัยมากเลยนะว่าพวกดวงดาว จักรวาลมันเกิดขึ้นมาได้ยังไง"
ลุงตั้งคำถามขึ้นมาอย่างที่ชอบทำ ตอนนั้นเราสี่คนนอนดูดาวกันที่เชียงดาวระหว่างที่ไปถ่ายทำสารคดี คืนนั้นเป็นคืนฟ้าเปิด เห็นดาววาววับมากมาย เราคุยกันไปเรื่อยเปื่อย
"ทฤษฎีบิ๊กแบงไงคะ" ฉันตอบ "ไอ้หนังสือพวกนั้นผมก็อ่านมาบ้าง แต่เข้าใจยากเกินไป  ผมอยากเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้นะ เหมือนที่ผมสงสัยว่าพืชมันเจริญเติบโตขึ้นมาจากใต้ดินได้ยังไง คิดดูสิ ดินมันก็เป็นแค่ดิน แต่ดินเป็นที่มาของพืชทุกชนิด มันเป็นความมหัศจรรย์นะ"
คำถามซื่อๆ กระตุ้นให้ฉันคิดถึงหนังสือเล่มแรกของลุงที่ฉันอ่าน ในตอนจบลุงก็ลงท้ายด้วยคำถามแบบนี้เช่นกัน
 
ความมหัศจรรย์ของลุงนั้นเรียบง่ายเหลือเกิน
 
ลุงดำรงอยู่ด้วยความคิดและความสงสัยต่อชีวิตและจุดกำเนิดของมัน เช่นที่ลุงเฝ้าสงสัยเกี่ยวกับการกำเนิดดวงดาวจักรวาลและพรรณพืช เช่นที่ลุงชอบนั่งดูคลิปเกี่ยวกับดาวอังคารในมือถือ เช่นที่ลุงเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวอาจจะมีจริง เช่นที่ลุงชอบเลี้ยงนกและเฝ้ามองพวกมันหากิน ขณะเดียวกันชีวิตลุงก็มีปมปัญหาที่ไม่อาจสลัดหลุด ลุงยึดติดอยู่กับอดีตบางอย่างอันน่าขมขื่นที่ชั่วชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งคงไม่อาจลืมได้ ลุงทำให้ฉันเข้าใจว่าชีวิตมนุษย์มีความซับซ้อนและลึกลับเกินกว่าที่ใครคนหนึ่งจะไปตัดสินการกระทำของเขาหรือบอกให้เขาปล่อยวางได้
 
ฉันจะไม่ตัดสินและไม่บอกให้ลุงปล่อยวาง ถ้าลุงจะเขียนหนังสือหรือขึ้นไปพูดในวงเสวนาไหนๆ ฉันจะเป็นคนรับฟัง เพราะความฝันอย่างหนึ่งที่ลุงต้องการคงเป็นการได้แสดงความเห็นอย่างซื่อตรงและเปิดเผยโดยไม่ถูกปิดกั้นหรือตัดสินจากใคร

ดร. เพียงดิน รักไทย มดแดงจะล้ม คสช. -เครือข่ายราชาธิปไตยอย่างไร? ตอน 6 แนวรบกองทัพโจรมาเฟีย

ดร. เพียงดิน รักไทย มดแดงจะล้ม คสช. -เครือข่ายราชาธิปไตยอย่างไร? ตอน 6 แนวรบกองทัพโจรมาเฟีย
---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

Sunday, November 13, 2016

ดาวดวงเมือง ของประเทศไทยวันนี้ (ใช้วิจารณญาณประกอบ)

ดาวดวงเมือง
1 มฤตยูทับดวงเมือง ทับอาทิตย์ ทับเจ้าเรือนเมษคืออังคาร
2 ดาวประจำเมืองคืออังคาร ถูกเสาว์เล็งในเรือน มรณะ
3 สูตรพระเคราะห็สนธิ
3+1+7+0=ผ่าตัด อุบัติเหตุ การสังหาร การฆาตกรรม
4 ดาวบาปพระเคราะห์ อีกตัวคือ ราหู อยู่ราศีสิงห์ ตรีโกณฑ์ถึงลัคนา=บีบลัคนา
ส่วนเสาว์ข้อ3 เรียกเทียบเท่าเล็งลัคนาดวเมือง
5 ดาวตัวช่วยคือ พฤหัส คือ ความยุติธรรม ศาล ที่พึ่งทางกฎหมาย ลงราศีกันย์ ซึ่งเป็น อริ กับดวเมือง  =ความยุติธรรมไม่มี
6 พฤหัสราศีกันย์ถือเป็นตำแหน่งไม่ดี เรียกภาษาโหรว่า  ประ = ผิดศีลธรรม พระเป็นอลัชชี  ความเสื่อมของวงการยุติธรรม

   สรุป บ้านเมืองเหมือนถูกตรึงบนไม้กางเขน ้เหมือนรอหลั่งเลือด ประหารกัน
  เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

ยิ่งลักษณ์ ขายข้าว... ควรเดินหน้าต่อหรือไม่ อย่างไร?

ถูกต้องแล้วที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะถอยกลับ "ที่ตั้ง" ยังไม่เดินหน้าปฏิบัติการ "ขายข้าวสารหอมมะลิ" อีกเป็นหนที่ 3

แม้จะประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

ไม่ว่าจะนำไปวางขายบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า แฟชั่น ไอส์แลนด์ ถนนรามอินทรา ไม่ว่าจะนำไปวางขายบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า อิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง สมุทรปราการ

แห่งแรกใช้เวลา 1 ชั่วโมง แห่งที่ 2 ใช้เวลา 30 นาทีก็หมด

ผลสะเทือนที่สำคัญเป็นอย่างมาก คือ การให้กำลังใจชาวนา เหมือนกับมืออันอ่อนนุ่ม อบอุ่นที่ยื่นจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปช่วยซับน้ำตาให้

เป็นที่ประจักษ์ทั้งผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และในขอบเขตทั่วประเทศ

อาการอิจฉา ริษยา กระบอกตาร้อนผ่าวอันมาจากหลายคนในฝ่ายตรงข้าม คือ ประจักษ์พยานและรูปธรรมสามารถยืนยันความสำเร็จได้

แล้วทำไมการหยุดยั้ง ไม่เดินหน้าจึงถือว่า "ถูกต้อง"

 

ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นี้ เป็นการจัดฉาก เป็นการสร้างภาพ และเป็นส่วนหนึ่งของ "อีเวนต์" ในทางการเมืองอย่างแน่นอน

ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไป อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์

ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาข้าวสารส่วนหนึ่งที่ซื้อมาจากชาวนาออกวางขายบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าทั้งในกทม.และที่สมุทรปราการ

ทั้งหมดนี้เป็นการเคลื่อนไหว 1 ในทางการเมือง

เป็นการเคลื่อนไหวที่เลือกจังหวะเวลาที่สำคัญอย่างน้อย 2 เรื่องมาบรรจบกัน 1 ก็คือ เรื่องคำสั่งทางปกครองที่เรียกค่าชดเชยจากโครงการรับจำนำข้าวจำนวนเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท และ 1 ก็คือ สถานการณ์อันเป็นวิกฤตของชาวนาเนื่องจากราคาข้าวเสื่อมทรุดและตกต่ำ

การออกมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงสอดรับกับ "สถานการณ์"

 

คำถามก็คือ หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยทั้งในต่างจังหวัดและส่วนกลาง แล้วผลตอบรับเป็นอย่างไร

คำตอบจาก "มวลชน" ก็คือ ขานรับกันอย่างคึกคัก

ที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ การเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปรากฏเป็นข่าวทั้งในสื่อกระดาษ สื่อกระจก

คำตอบจาก "ฝ่ายตรงกันข้าม" ก็สามารถประเมินได้

1 พรรคการเมืองคู่แข่ง หงุดหงิด และจำต้องลงไปเกี่ยวข้าวกับชาวนา และ 1 อำนาจรัฐที่เคยรุกไล่และเล่นงาน ขยับไม่ออก ได้แต่เฝ้ามองและติดตาม ทำอะไรไม่ได้

การหยุดและประเมินผลจึงมีความจำเป็นในทางการเมือง

 

การหยุดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงมิได้เป็นการหยุดแบบ "หยุด" ตรงกันข้าม มีลักษณะ "เคลื่อนไหว"

เพราะว่าสถานการณ์ราคาข้าวเริ่มมีการคลี่คลาย เพราะว่าความเป็นจริงที่ชาวนาประสบในเรื่องราคา กำลังได้รับการตรวจสอบจากมาตรการและปริมาณข้าวที่ออกมา

การหยุดและรอคอยเพื่อหา "เงื่อนไข" ในการเคลื่อนไหวจึงสำคัญ

ดร. เพียงดิน รักไทย 13 พ.ย. 2559 ตอน กลบเกลื่อนความชั่วตน ด้วยการป้ายสีคนอื่นว่าชั่วด้วย

ดร. เพียงดิน รักไทย 13 พ.ย. 2559 ตอน กลบเกลื่อนความชั่วตน ด้วยการป้ายสีคนอื่นว่าชั่วด้วย


---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

Friday, November 11, 2016

คนเคยมีสีกลับใจ กับคำถามที่ชวนพิจารณา!!

ได้มาจากกลุ่มไลน์ที่ 80 % เป็นสลิ่ม คนโพสต์กล้าหาญมากโพสต์มาตั้งแต่ ๕ ทุ่มเมื่อคืน จนบัดนี้ในกลุ่มเงียบกริบ

"ลองอ่านข้อมูล..ดูของอีก
ฟากหนึ่งให้เข้าใจ (อย่างเป็นกลาง) แล้วพิจารณาด้วย "ปัญญาชน" ของท่าน แล้วพิจารณาคำถามทั้งหมดว่าพวกเราคือ "กบในกะลา" หรือไม่

1)รัฐบาลนี้ถูกต่อต้านจากองค์กรระหว่างประเทศเกือบทั้งหมด ไม่มีใครลงนามความร่วมมือด้วยมา2ปีกว่า เพราะอะไร?

2) รัฐบาลนี้ส่งหมายจับดร.ทักษิณไปรัฐบาลอื่นทุกประเทศ ไม่มีใครจับเลย แต่เขากลับให้เกียรติดร.ทักษิณ ทั้งๆที่ประเทศเหล่านั้นจริยธรรมสูงกว่า จริงจังกว่าเรามากมาย รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ, สื่อต่างประเทศระดับโลก ให้เกียรติระดับเชิญไปปาฐกถา เชิญเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลนับสิบประเทศ เชิญให้มาลงทุน แย่งกันให้สถานะประชาชน ให้พาสปอร์ตนับสิบประเทศ แต่สื่อไทยไม่ได้ออกข่าวและคนไทยไม่รู้เรื่อง...ทำไม?

3) ต่างประเทศ, องค์กรต่างประเทศ ไม่ให้เกียรติประยุทธในฐานะส่วนบุคคล แต่ให้เกียร์ตในฐานะตัวแทนประเทศตามมารยาทเท่านั้น ทำไม?

4) พวกอนุรักษ์นิยมขวาจัดไปนัดประท้วง ดร. ทักษิณที่เมกา ทำไมเขาไม่ให้เกียรติ ให้ประท้วงในคอกที่จัดไว้ และให้ลงจากตึกในลิฟขนขยะ(เจิมศักดิ์ลงเฟสบุคส่วนตัวเอง) แต่พวกสนับสนุนให้อิสระเดินบนถนน ทำไม?

5) ดร.ทักษิณไปทำธุรกิจต่างประเทศโดยรัฐบาลต่างๆเชิญชวน เกือบสิบประเทศ รำ่รวยกว่าสมัยอยู่เมืองไทย ไม่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ ไม่มีเรื่องทุจริตเลย แสดงว่าอัจฉริยะจริงใช่ไหม?

6) คนไทยถูกกรอกหูว่าทักษิณโกงจนฝังไว้ในหัว และรวมหัวเค้นหาความผิดและวันนี้มีอำนาจเผด็จการเต็ม แต่ทำไมเอาผิดได้เพียงเซ็นชื่อรับรองให้เมียซื้อที่ดิน ตามระเบียบราชการเท่านั้น และศาลตัดสินแล้วว่าการซื้อขายไม่ผิด เป็นคดีที่อ่อนมาก..

แต่"เสาโรงพักโด่เด่" มันชัดเจน เห็นตำตา แต่ไม่มีคนด่าว่า"โคตรโกง"..สนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นคนเปิดประโยค"โคตรโกง" ตัวเองถูกศาลตัดสินโกงบริษัทมหาชน จำคุก85ปี คนไทยกลับไม่ด่าว่า"โคตรโกง" ทำไม?

และหากเกิดในรัฐบาลทักษิณ และกรณีจำคุก85ปีคือทักษิณ เราจะมีอาการอย่างไร?

7) คนที่จำว่าทักษิณโกง ก็จำมาจาก การปราศรัยของเวทีสนธิ(คนโกง)และเวทีสุเทพ(มีคดีโกงเพียบ) แต่แสดงออกว่าเกลียดโกง คุณก็เชื่อแบบงมงาย...งงตัวเองไม๊?

8) คนที่เกลียดเข้าไส้ว่า ทักษิณโกง จริงๆตัวเองทำมาหากินเหน็ดเหนื่อยทั้งวันไม่เคยค้นหาข้อมูลจริง และไม่เคยจริงจังกับเรื่องเหล่านี้มาก่อน แต่ที่ด่าๆและคำอธิบายก็พูดตาม"คนที่เกลียดทักษิณ" จนตัวเองเกลียดเข้าไส้ไปด้วย พูดตามวาทะกรรมในทีวี และจับกลุ่มด่าว่า ย้ำซึ่งกันและกัน และหาพวกเชื่อตามๆกันมา แต่บอกว่าฉันศึกษาข้อมูลทะลุปรุโปร่ง งงตัวเองไม๊?

9) ทุกคนก็รู้ว่า ดาราค่าตัวแพงมาก ค่าจ้างออกงานครั้งละเป็นแสนๆ คนพวกนี้โกงภาษีหนักมากที่สุด แต่แสดงอารมณ์บนเวทีเหมือนกำลังแสดงละครว่าเกลียดโกง จนคนฟังอินไปด้วยจริงจัง ลืมไปว่านั่นมันการแสดงบนเวที ทั้งๆที่รู้ว่าดาราพวกนี้ขี้โกงภาษีมาตลอด.. สนธิลิ้มขี้โกงก็รู้ โรงพักเสาโด่เด่ก็ขี้โกงก็รู้ แต่เราก็รักเขา ทั้งๆที่ก็รู้ว่าเขาโกง..งงตัวเองไม๊?

หรือจริงๆแล้วเราไม่ได้เกลียดคนขี้โกงจริงๆ แต่มันทำให้เราดูเป็นคนดี หรือตามกระแส เพราะเราถูกปลุกระดม จึงแสดงออกไปได้ขนาดนั้น?(ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีพวกเสื้อแดง เสื้อแดงก่อนหน้านั้นใส่เสื้อเหลือง โพกหัวเหลือง เพิ่งมีเสื้อแดงตอนคัดค้านรัฐธรรมนูญปี 2550 )

10) ก่อนทักษิณบริหาร ประเทศเราอยู่ในสภาพล้มละลายเงินคงคลังเหลือ280ล้านยูเอสดอลล่าร์ แต่มีหนี้สินมหาศาล จะต้องใช้หนี้อีก50ปี ถึงรุ่นลูกหลาน

แต่2ปีใช้หนี้หมด เงินคงคลังกลับมาที่2400ล้านยูเอส และขึ้นมาถึงเกือบสองหมื่นภายใน4ปี และกลับมาเป็นประเทศให้กู้เร็วมากๆ ทุกประเทศทึ่งเรามาก ไม่เห็นต้องใช้หนี้ถึง50ปีเป็นภาระลูกหลาน เราไม่พูดถึง

กลับมามีเงินเหลือขึ้นเงินเดือนข้าราชการ2ครั้ง มี30บาทรักษาทุกโรค(เมกายังเอาไปทำตาม)มีกองทุนหมู่บ้านจนถึงทุกวันนี้ เราก็ไม่พูดถึง

แต่คนที่ถูกตัดสินโกง85ปี มาบอกว่าทักษิณอยู่ต่อ"ประเทศจะเหลือแต่กระดูก" งงตัวเองไม๊ว่าเราเชื่อไปได้ยังไง?

พวกโกงประเทศทั้งนั้นที่ปลุกระดมเรา เราก็เครียด กังวล แล้วเราก็เชื่อเรื่องโกหก แต่เราก็เชื่อว่าเราฉลาด เราไม่ตั้งสติทบทวนเรื่องเก่าๆดูหรือ ?

จากประเทศกำลังรุ่งเรือง วันนี้ทำท่าจะเหลือแต่กระดูก คนที่โกหก หลอกเรามา เราไม่เคยคิดถามหาว่าเขาต้องรับผิดชอบอย่างไร? ยังร่วมมือเขาลากกันต่อไปจนกว่าจะเหลือแต่กระดูกจริงๆอย่างนั้นหรือ?
หรือว่าเราปิดกั้นตัวเองเกินไป ไม่รับรู้ข้อมูลอื่นๆ ไม่ตามข่าวต่างประเทศ หมกมุ่นอยู่กับความเกลียด ที่ถูกปฎิบัติการจิตวิทยาฝังหัว

สรุป เราเป็น"กบอยู่ในกะลาจริงๆ" แล้ว

เอวัง ..ฝากให้คิดต่อเท่านั้นนะครับ"

Thursday, November 10, 2016

จดหมายแสดงความยินดีต่อว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมพ์ จากท่านจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์การเสรีไทยฯ



ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?
****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม) 2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ 4. อีเมล์ 5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์ 6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก



ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย 10 พ.ย. 2559 ตอน ทำไมมีการประท้วง Trump อนาคตจะเป็นอย่างไร?

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก



Wednesday, November 9, 2016

ดร. เพียงดิน รักไทย 9 พ.ย. 2559 ทำไม Donald Trump ชนะ? แล้วโลกจะแตกไหม?

ดร. เพียงดิน รักไทย 9 พ.ย. 2559 ทำไม Donald Trump ชนะ? แล้วโลกจะแตกไหม?

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก




Monday, November 7, 2016

ดร. เพียงดิน รักไทย 8 พย 2559 ตอน วาทกรรม หนักแผ่นดิน กับ กรณีชาวนาไทย (ฉบับสมบูรณ์)

ดร. เพียงดิน รักไทย 8 พย 2559 ตอน วาทกรรม หนักแผ่นดิน กับ กรณีชาวนาไทย (ฉบับสมบูรณ์)

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก

Sunday, November 6, 2016

The Truth of October 6, 1976: A Student Massacre that Still Waits for Answers

The Truth of October 6, 1976: A Student Massacre that Still Waits for Answers

ANN NORMAN·SUNDAY, NOVEMBER 6, 2016

 By Ann Norman 




Truth is a thing that doesn't die ความจริงคือสิ่งที่ไม่ตาย---as the saying goes. And one day we may know the truth of the Thammasat University Massacre, of 50 to 100 student demonstrators on October 6, 1976. That day college students were killed by an army, police, and vigilante mob in ways so gruesome you can't ever "unsee" the images. Not only were the students butchered in various and unusual ways, but their dead bodies were desecrated and even raped. The iconic picture from this event is the bloodied and lifeless body of a young person, hanging from a tree, being beaten with a folding chair, while a circle of people watch, some smiling. In addition to the dead, thousands were arrested and were made to strip to the waist and crawl on the ground as a form of humiliation. The event was instigated by accusations that the students were communists and that they had insulted the Crown Prince. In fact, the students had been protesting the return of an exiled dictator to Thailand as well as the assassination of a labor activist. Many of the demonstrators, who had not previously been communists, were radicalized by the shocking turn of events and fled into the jungle to join the communists for several years. A day after the massacre, a coup replaced the democratic government with yet another dictatorship. No one was ever prosecuted for the massacre; everyone involved was granted amnesty. 


What makes this tragedy especially difficult to understand or accept is that only three years earlier, on October 14, 1973, a similar pro-democracy student uprising had ended in victory for the demonstrators, and that event continues to be celebrated today. Songs are still being written for the heroes of October 14---while those who died three years later on October 6 are ignored or regarded with suspicion, as if they possibly share some blame for being attacked by a bloodthirsty mob.  


What exactly happened October 6 and why? The facts are still discoverable: it occured in modern times, the victims were from the educated middle class, there were thousands of witnesses (now only be in their late 50s or early 60s), and the whole thing was filmed. (The images are distressing and you may not want or need to see them. But if you need proof, just google.) Because so many progressive Thais were there that day, it is unsurprisingly that I happen to know several of them, just as most Americans know someone directly affected by 9/11. Yet despite the opportunities to discover the truth about October 6 and learn from it, no consensus has emerged as to what happened, how it happened, and or why. And this is due to an active and ongoing campaign to silence the questions before they are even asked. How many died? Who is responsible? How can we prevent it from ever happening again? 


This year, just prior to the 40 anniversary of the event, The Nation ran an article with a promising title: "Lessons to be learned from the October 6, 1976 heartbreak." Such lessons presumably come from an examination of history, so I was surprised when the article began with attempt to shame and discourage those planning memorials for the 40th Anniversary: "Next week, several groups are planning to commemorate the tragedy of October 6, 1976. Indications suggest a large sum of 'mysterious' money has been made available to finance any group that can organize provocative commemorative projects."

 

Of course, there is a longstanding tradition in Thailand of condemning October 6 memorials as "provocative." In 2013, to mark the October 6 anniversary, a group Thammasat students staged a play called "Wolf Bride." Two students Patiwat 'Bank' Saraiyam (a man) and Pornthip 'Golf' Munkong (a woman) went to jail for two and a half years for lese majesty for putting on that play, and several other young actors had to flee the country to avoid lese majesty charges. Commemorations for the anniversary in 2014 were cancelled because of the ban on political gathering in the wake of the coup. This year, for 40th Anniversary of the massacre, Thammasat students invited Joshua Wong of the 2014 Hong Kong Umbrella Protests to come speak. But Wong was prevented from entering the country by immigration officials who surrounded him as soon as the plane landed. When he demanded to know why he was being detained, one warned him, "You know this is Thailand, it's like China. Not like Hong Kong." (Recall that in 1976, the Thammasat students were massacred after being branded as "communists." Forty years on, Thai official now SIDE with communists to suppress the speech of Thammasat students trying to commemorating that massacre! The whole geopolitical context can change, but nothing changes for Thai students demanding democracy.)  


And why can't we talk about October 6? The strong message from the powers-that-be is that talking about the event will be unpleasant and messy, and make it harder for the country to come together around national symbols of the monarchy. 


That much is true, as rabid royalists played a lead role in the events, and US diplomatic cables report that King Bhumipol at first appeared to treat the massacre as a necessary cost of doing business (in the war on communism) rather than a crime against humanity. The cables are shocking, but not all that shocking. US leaders have been equally accepting of "collateral damage" at certain points in history. Lots of horrible, ugly things happened in the 60s and 70s, both in Thailand and in America, during the war on communism. It was a time of social unrest, student protests, anti-communist fervor, war atrocities, secret undercover government activities, and yes even massacres. 


This year, in reading an article (that I can no longer access) on the October 6th event, I learned that the worst of the atrocities on October 6, such as the iconic hanging, may have been committed by a small group set up by the Thai equivalent of the US CIA. Reading Wikipedia, I learned that that secret Thai organization was funded by the US CIA to fight communism. A serious investigation of October is likely to dig up a lot of dirt that is uncomfortable to personal and national self-perceptions in either or both countries. It could lead anywhere.  So why not reconcile, move on, and just forget the ugly past?  


This is why we can't give it up: Because, in Thailand, 40 years after the massacre, Thais are STILL living under dictators; students are still trying to speak out about democracy, and they are still being shut down by those who brand them as dangerous troublemakers who disrespect royalty. There are still hysterical witch hunts. Leaders still look for scapegoats on which they can lay the blame for all of Thailand's troubles. And there is still a culture of impunity, that lets the well-connected get away with literally ANYTHING.  


And this is why tragedy of October 6, 1976, still haunts. This is why those who were affected cannot just forgive and move on. I asked someone who was there what I should write for this article. They said "Tell them we were just trying to speak up; the students had no rights to speak." And the students still cannot speak freely; they are still bullied and abused at the whims of the powerful. It is difficult to fix a problem if we can't even acknowledge that problem. When I practice my new-found Thai saying, "Truth is a thing that doesn't die" on my Thai friends, twice I have twice gotten the reply, "Truth is a thing that doesn't die. But in Thailand, people who say the truth might end up dead." Similarly, one Thai human rights group commemorated the 40th Anniversary by selling black T-shirts that say, "I think therefore, I am dead" and the date: "40th 6 October, 1976." 


Isn't it time to start fresh, and build society on a new foundation of truth and human rights? A society that is built on a foundation of happy myths is vulnerable to truth; and it must brutally and continually defend its inconvenient secrets by suppressing the human rights of students and others interested in pursuing facts where they lead. This month a representative of the Thai Alliance for Human Rights will be going to the International Criminal Court in The Hague to report on this massacre and other massacres in Thai history that could be labeled crimes against humanity. Neither Thailand (nor the United States) is a signatory to the Rome Treaty establishing the International Criminal Court, and crimes cannot be retroactively prosecuted even if Thailand does in the future decide to sign on. But at least, our organization will have a chance to report the crimes and be heard. And it indicates a method that Thai people could plausibly use in the future to hold even its most powerful people accountable, to end the culture of impunity, and so discourage future crimes against humanity.


ANN NORMAN is Executive Director of the Thai Alliance for Human Rights (TAHR)

Website:  http://tahr-global.org   Email: ann.norman@tahr-global.org

Saturday, November 5, 2016

กระชากหน้ากาก ปอบเปรตดูดเลือดชาวนา

กระชากหน้ากาก ปอบเปรตดูดเลือดชาวนา
*******************************
__//นิ่มอนงค์

เมื่อเริ่มมีปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ สวนทางกับราคาข้าวถุงที่แพงขึ้น ชาวนาก็ออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลทหาร... แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ นอกจากการกล่าวหากล่าวโทษรัฐบาลก่อน และถูกแนะนำให้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หรือพืชอื่นแทน
ชาวนาจึงหมดที่พึง หันมาพึ่งตนเองสีข้าวออกมาขายเอง 
แต่ไม่วายพบอุปสรรคจากรัฐบาลเผด็จการ เมื่อ
โฆษกไก่อ่อน นายพลห้องแอร์และปลัดกระทรวงพาณิชย์บอกว่าผิดกฏหมายขายตรงทำไม่ได้ ทำให้รัฐฯขาดรายได้ ภาษี และจะไม่ยั่งยืน สารพัดคำขู่

 แถมนายกฯหน้าโง่ก็บอกว่า เป็นเรื่องของโรงสี กับนักการเมืองกดราคารับซื้อ บางคนบอกให้เลิกปลูกข้าวแล้วไปขายปุ๋ย สารพัดคำพูดหาทางออกปัญญาอ่อน แก้ปัญหาไม่ได้ก็รีบโยนบาปไปให้ผู้อื่น รับแต่ชอบ ไม่รับผิด ทำงานแก้ตัวไปวันๆ

ต่อมานายกฯยิ่งลักษณ์ได้ไปพบชาวนาที่ภาคอิสาน และซื้อข้าวจากชาวนามาจำนวนหนึ่ง และประกาศจำหน่ายต่อให้ประชาชนผู้สนใจช่วยเหลือชาวนาในราคาที่ซื้อมา
พร้อมกันนี้ทางปั้มปตท. และมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ต่างประกาศเปิดพื้นที่ให้ชาวนานำข้าวมาขายได้

เท่านั้นเอง
รัฐบาลควายจึงได้คิดว่ามีวิธีง่ายๆที่ จะช่วยชาวนา
รีบตาลีตาเหลือกสร้างภาพให้ทหารแต่งเครื่องแบบไปช่วยชาวนาเกี่ยวข้าว และสั่งการให้ส่วนราชการที่มีความพร้อมเปิด
สถานที่อำนวยความสะดวกให้ชาวนานำข้าวมาจำหน่ายแก่ประชาชน...

วันนี้บรรดาเหล่าผีปอบ เปรต ผีกระสือ ผีดิบดูดเลือด รีบแสดงตนเป็นคนดีอยากช่วยเหลือชาวนา เพื่อโหนกระแส ว่าตนเองเห็นใจชาวนาเหลือเกิน แต่เบื้องหลังคนกลุ่มนี้คือ" นักบุญ ใจบาป" หากินบนคราบน้ำตา และหยาดเหงื่อของเพื่อนร่วมชาติ ทั้งที่เคยออกมาประท้วงให้ยกเลิกโครงการรับจำนำข้าวราคา 15,000 บาท/เกวียนในสมัยนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สารพัดข้ออ้าง เพื่อต้องการไม่ให้มีโครงการนี้ เพราะเหล่าบรรดาพ่อค้าเหล่านี้สูญเสียผลประโยชน์ที่ค้าขายแบบกึ่งผูกขาดมานาน พอสังคมเริ่มสงสัย และจับได้ ก็ทำตัวเนียนๆ ออกมาโหนชาวนา จะช่วยอย่าง นั้น อย่างนี้ แต่ถ้าหากจะช่วยจริงๆ แค่รื้อฟื้นโครงการรับจำนำข้าวมาใช้ก็จบ...!

#กล้าไหม ? 
#ซีพีออล

ทฤษฎีปฎิวัติเพียงดิน ต้องแทงตรงหัวใจให้ทะลุหลัง...ดร. เพียงดิน เขียนไว้เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2553

Wednesday, November 3, 2010
ทฤษฎีปฎิวัติเพียงดิน ต้องแทงตรงหัวใจให้ทะลุหลัง...

หากจะมองภาพการต่อสู้ระหว่างฝ่ายรักษ์เจ้า หรือฝ่ายศักดินานิยม กับฝ่ายประชาธิปไตยในระยะปีที่สี่หลังการรัฐประหาร 49 มาจนถึงเวลานี้ ต้องถือว่ายากจะบอกว่าใครจะชนะในระยะใกล้นี้ ยังก้ำกึ่งและมีสิทธิออกได้หลายหน้าเสียด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนจะต้องชนะในระยะยาวในที่สุด แต่จะเพราะเทพอสูรเป๋และภาคียอมโยนผ้าขอแพ้ หรือจะชนะแตกแบบเลือดกลบหน้าสู้ต่อไม่ได้ หรือจะโดนประชาชนน็อค  ก็ต้องเกิดโดยประชาชนชนะแน่ ๆ  แต่ในระยะนี้ ต้องย้ำว่า ยังกำ้กึ่งครับ

ที่ว่าก้ำกึ่งนั้น แปลว่า คณะรักษ์เจ้าเคล้าศักดินานิยม มีโอกาสจะสามารถเตะถ่วงและยึดอำนาจได้อีกหลายปี ก็คือชนะในยกต่อไปนั่นเอง  และมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงว่าเราอาจจะต้องทรมาณเหมือนดูละครน้ำเน่าบ้านทรายทองอีกซักสองสามตอนนะครับ  ที่เห็นชัด ๆ เราก็เห็นการจับแกนนำเราขังคุก ไล่ต้อนแกนนำไม่ให้โงหัว พยายามสยบและสลายทุกกลุ่มที่จะคิดการต่อต้านรัฐบาล เข้าครอบครองสื่อทุกแขนง ป้อนข้อมูลเน่าให้กับระบบต่าง ๆ ทุกระบบ ใช้ตีนมือระบอบราชการ (กิจการของพระราชา) ฯลฯ  ภาพที่เห็นเวลานี้ จึงเหมือนว่า พวกเทพอสูรและภาคีต่างย่างสามขุมไล่ต้อนฝ่ายประชาธิปไตย แถมมีกรรมการคอยจับตีนมือฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อหวังให้อีกฝ่ายต่อย ๆ เตะเอา ... ภาพที่เห็นปลายยกที่ผ่านมาและในอีกยกต่อไปที่กำลังจะเริ่ม ต้องถือว่าน่าอึดอัด เพราะ ฝ่ายประชาชน ยังคงต้องถอยและแย็ปหมัดเพื่อป้องกันตัวเองไปก่อน

สิ่งที่ผมเกรงไว้ว่าจะพัฒนาต่อไปจากนี้ ก็คือภาพจำลองสองภาพครับ

หนึ่ง หากมีการเลือกตั้งปีหน้านี้ เราจะแพ้อย่างราบคาบ แล้วพวกศักดินาจะอ้างความชอบธรรม และฝ่ายประชาธิปไตยจะแดงกระจัดกระจาย แล้วก็กลายเป็นผู้ก่อการร้ายที่จะถูกเขาจัดการอย่างถูกกฎหมาย ยิ่งใช้ความรุนแรง ก็จะยิ่งโดนเขายุให้ฆ่าฟันล้างล่า จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง หรือสงครามกองโจร ที่ต้องอาศัยเวลาและการสูญเสียมหาศาลก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ได้ 

และสอง หากเสื้อแดงแกร่งเกินต้าน และพวกแก๊งค์เทพอสูรรู้ว่าเลือกตั้งแล้วจะแพ้ พวกเขาจะหน้าด้านยืดอายุรัฐบาล หรือหาโอกาสตั้งรัฐบาลอวยเจ้าและเฝ้าล่าแดงให้จงได้  จากนั้น ก็จะดำเนินการเหมือนที่กำลังทำอยู่ แต่จะยิ่งเพิ่มอัตราความโหด  ประชาชนจะตายในหลักพันหลักหมื่น ไม่ด้อยกว่าเหตุสมมุติข้างบน

การคงอยู่ของไดโนเสาร์เหล่าตอแหลศักดินานั้น ไม่มีทางที่จะตั้งอยู่บนความรุ่งเรืองและสุขสบายของประชาชน เพราะพวกนี้ กำเนิดก็ผิดธรรมชาติ อยู่ก็ผิดศีลธรรม และปล่อยไว้ก็เป็นพิษแบบโรคติดต่อร้ายแรง   ดังนั้น ไม่มีทางเลือกหรอกครับ หากประชาชนจะยอมให้เกิดเหตุการณ์สองอย่างข้างบน เราจะสูญเสียมหาศาล  ดังนั้น หากอยากกู้บ้านแปงเมือง ก็ต้องลุกมาปฎิวัติ   หากอยากให้บ้านเมืองลงเอยด้วยดี เราก็ต้องจัดการป้องกันและต่อสู้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสองสิ่งนี้

ผมฟังคุณชูพงศ์และคุณแอนตี้มานาน เห็นด้วยและชื่นชมกับทั้งสองท่านอย่างยิ่ง  โดยเฉพาะในแง่การชี้เป้าว่า กษัตริย์คือตัวปัญหาสำคัญของบ้านเมือง และเชื่อตามว่า กษัตริย์และกลุ่มผลประโยชน์รอบวัง คือก๊กที่ชิงอำนาจจากประชาชนไปใช้ปกป้องและแสวงหาผลประโยชน์ร่วมอย่างเป็นระบบ เป็นแก๊งค์ และเป็นภัยยิ่งต่ออนาคตของประเทศชาติ  แต่ผมไม่เห็นด้วยว่าเราควรจะทิ้งแนวรบทางรัฐสภาเสียสิ้นเชิง  เพราะยิ่งเราปล่อยให้พวกอภิสิทธิชนตอแหลอยู่ในอำนาจ  ความเสี่ยงของการเกิดภาพจำลองทั้งสองภาพข้างบนจะยิ่งเพิ่มขึ้น และประชาชนจะชนะยากขึ้น และสูญเสียมากขึ้น

การจะสู้และจะก้าวไปสู่การปฎิวัติประชาชนนั้น จะต้องทำอะไรหลายอย่าง ซึ่งผมได้เน้นไว้หลายครั้ง ดังที่ระบุไว้เป็นภารกิจมดแดง http://unrad.net/?p=7  และหัวใจของปัญหาที่เราต้องแทงให้ทะลุไปถึงแผ่นหลังของตัวปัญหา หัวใจของปัญหาเมืองไทยมีหลายด้าน ซึ่งเราต้องแทงให้ทะลุเข้าไปถึงใจกลาง ส่วนจะจัดการอย่างไรนั้น เราต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำต่อไป แต่ทิศทางต้องชัด คือจัดการกับทุกส่วนของหัวใจปัญหาต่อไปนี้:-

ข้างนอกสุดของหัวใจของปัญหาแห่งชาติไทย คือ พลังมวลชนที่ถูกเขาสกดไว้ด้วยมนตราไสยศาสตร์  ทำตัวจัดขวางประชาชนด้วยกันเอง  หากไม่แก้ไขให้มวลชนตื่น เราก็จะพบกับความลำบากในการเคลื่อนไหวใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฎิวัติในอนาคต

ถัด ๆ กันเข้าไปนี้ ก็จะพบว่ามีสื่อ สถานศึกษา หน่วยงานราชการ และหน่วยงานการเมืองทั้งหลาย ที่อยู่ในกำกับของก๊กเทพอสูร พวกนี้เป็นสิ่งที่จะพบได้ทั่วไป และจะเป็นเหมือนตัวมนตร์สกด หรือสารแพร่พิษ ที่ทำให้มวลชนจำนวนมากต่อต้านการพัฒนา หรือวางเฉย หรือไม่กล้าสู้ หริอหลายส่วนยังตามืดบอดอีกต่อไป

ลึกเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง ก็คือรัฐบาลนอมินีก๊กมาร  รัฐบาลนี้ คือตีนมือของเทพอสูร เป็นเครื่องจักสำคัญ เราคงเห็นแล้วว่า รัฐบาลที่มีหัวหน้ารัฐบาลหน่อมแน้ม และมีกำนันเก่ามากุมอำนาจมหาดไทย มันกลับสามารถใช้งานเครือข่ายตีนมือระบอบราชาธิปไตยอย่างดีและยึดอำนาจมาปั่นต่อ จนทำให้เหล่าเสื้อแดงรวนไปหลายครา เรียกว่ามาแรงจนแดงต้องหลบเชียวนะครับ....

และส่วนที่ลึกลงไป ที่กำกับรัฐบาลและสื่อสารกันอย่างใกล้ชิดกับขั้วปัญหา ก็คือกลุ่มทุนที่่ได้ประโยชน์กับการอยู่ร่วมกับรัฐบาลนอมินีและราชสำนัก และระดับนี้ จะมีขุนศึก (ทหารตำรวจ) เป็นกลไกสำคัญ  หากไม่แก้กลุ่มนี้ ก็จะไม่มีทางเข้าถึงแก่นกลางของปัญหาได้

และในที่สุดตรงกลางสุดของปัญหา ก็คือสถาบันพระมหากษัตริย์นั่นเอง  ปัจจุบันนี้ ความสงสัยเกี่ยวกับบทบาทและฐานะที่แท้จริงของสถาบันฯ นั้น แทบไม่เหลือแล้วครับ  คงไม่ต้องขยายความเลย สำหรับคนเสื้อแดงที่ได้รู้ ได้ยิน ได้เห็น และได้สัมผัสมาตลอดสี่ปีที่ผ่านมา

การจะปฎิวัติ จะต้องแทงหัวใจปัญหาเหล่านี้ให้ทะลุ จะต้องเอาพวกนี้มาเป็นพวกของประชาชนให้จงได้   หากเอามาเป็นพวกไม่ได้ ก็ต้องทำลาย หรือกดให้หมดอำนาจหรือพลังที่เป็นพิษต่อประชาชนให้ได้  จะทำอย่างเดียว ด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้ 

การจะจัดการกับพี่น้องประชาชนที่ถูกสกดจิต ทำอย่างไร การเผยแพร่ความจริง และสร้างภาพเชิงสัญลักษณื ทำได้ดีแล้ว แต่ต้องทำมากกว่าเดิม ลึกกว่าเดิม และมุ่งเป้ากระจายออกไปหาประชาชนสีอื่น ๆ อย่างมีความคาดหวังให้สูงยิ่งขึ้น

การจัดการกับสื่อ สถานศึกษา วัดโบสถ์มัสยึด กลไกที่เป็นกลุ่มก้อนในสังคม ที่ยังรับใช้ลัทธิไดโนเสาร์ ต้องทำอย่างไรบ้าง เป็นโจทย์สำคัญอย่างยิ่ง

เรื่องการแย่งอำนาจรัฐ ก็จะต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อไทยอาจจะเป๋ แต่ประชาชนจะต้องไม่เป๋ ไม่ยอม และจะต้องดึงเพื่อไทยมารับใช้ให้ได้  ตอนนี้ยังไม่ชัด แต่จะต้องทำให้ชัดกว่านี้

ส่วนกลุ่มขุนศึกและนายทุนอิงวังนั้น การจัดการหรือดึงพวกเขาเข้ามาสนับสนุนการปฎิวัติประชาธิปไตย จะต้องทำอย่างมีเป้าหมาย และหากพวกนี้พยศและทำร้ายประชาชน ประชาชนยิ่งจะต้องมีวิธีปรามและกำราบพวกเขาอย่างเด็ดขาด  ตรงนี้อ่อนไหวมาก ๆ และเป็นจุดบ่งชี้สำคัญ!!!! ใครจะทำ และทำอย่างไร???? เป็นคำถามที่แกนนำการปฎิวัติในวันนี้และในอนาคตต้องคิด  เพราะหากไม่สามารถกดหรือดึงพวกนี้มาเข้าข้างประชาชน เราชนะไม่ได้ครับ หรือจะชนะได้ ก็ต้องฆ่าล้างโคตรกันไปข้างหนึ่งทีเดียว แต่คงล้างโคตรประชาชนไม่ได้  ดังนั้น หากจะล้างโคตรแล้วชนะ ก็คือ ฝ่ายขุนศึกและนายทุนศักดินาน่ะแหละ ที่จะต้องถูกล้มล้าง 

และในที่สุด ก็ต้องมาถึงแกนกลางที่สุดของปัญหา  ชั้นในสุด  หากคิดจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หากไม่แตะถึงแกนกลาง ก็จะไม่มีทางแทงทะลุหัวใจ และจะไม่สามารถหยุดกลไกพิษหรือวงจรอุบาทว์ได้  จะทำอย่างไร  จะล้อมวังจับตัวฆ่าฟัน จะล้อมวังแล้วบังคับให้เจรจายกอำนาจคืนประชาชน จะกราบบังคมทูลแบบเนียน ๆ และประณีประนอมผ่านสภา จะลอบฆ่าล่าล้าง  จะกราบแล้วขอร้องให้ท่านคืนอำนาจแบบบัวไม่ช้้ำน้ำไม่ขุ่น  แต่สิ่งเหล่านี้ ต้องเกิด และจะต้องเกิดภายในไม่เกินรัชกาลที่สิบแน่นอน  เพราะเวลานี้ปัญหา ประเทศไทย เหมือนหนองที่มีน้ำหนองเหลืองบวมพองเกินผิวหน้าของหนังจะรับได้แล้ว  และการจัดการกับฝี ไม่มีทางอื่นใดที่จะเลี่ยงการเอาหัวฝีออกได้เลย 

จะเห็นว่า สิ่งที่กล่าวมา คือ ทฤษฎีปฎิวัติเพียงดิน  เพราะนี่คือการปฎิวัติของประชาชนชาวดิน ที่ไร้อำนาจบาตรใหญ่ ไร้กลไกอำนาจในระบอบอำนาจเดิม  ดังนั้น หากจะเจาะเข้าไปแก้ปัญหา ก็ต้องแทงให้ทะลุให้จงได้  จะทำอย่างไร?  นี่เป็นโจทย์ที่คนเสื้อแดงหลายฝ่ายพยายามคิด แต่อย่าลืมว่า หากคิดได้เท่าเดิม ทำได้เท่าเดิม และไม่มองสิ่ิงที่กล่าวมาทั้งหมด และทำในทุกจุด  เราจะเสี่ยงที่จะถูกถึงไปอยู่ในเกมอำนาจโฉดสองเกมของลัทธิไดโนเสาร์  เราจะสูญเสียอย่างมหาศาล... 

การปฎิวัติเพียงดิน จึงเป็นสิ่งที่ไม่ทำไม่ได้... ทำน้อยก็ไม่ได้... ทำแบบไม่ครบวงจรก็ไม่ได้..​. และทำแบบไม่สามัคคีพลังประชาชนก็ไม่ได้... ประชาชนไทย พร้อมแค่ไหนและมุ่งมั่นเพียงใดล่ะครับ?

Friday, November 4, 2016

CP CP CP ซีพีตะครุบเทสโกโลตัสคืน 3แสนล้าน แล้วยึดค้าปลีกไทยเบ็ดเสร็จ

CP  CP  CP

ซีพีตะครุบเทสโกโลตัสคืน 3แสนล้าน แล้วยึดค้าปลีกไทยเบ็ดเสร็จ


เป็นเรื่องที่คาดไว้ล่วงหน้าแล้ว และก็เป็นกระแสข่าวที่หนาหูทั้งในและต่างประเทศ ที่คุณธนินทร์ เจียรวนนท์ CEOของซีพี เตรียมประกาศซื้อTesco Lotus ในไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยเงิน 3 แสนล้าน 

มีการวิเคราะห์ว่าสถานการณ์ธุรกิจการเกษตร,ค้าปลีกนั้น เท่ากับเครือเจริญโภคภัณฑ์กรุ๊ป หรือ CP คุมการเกษตรหมดทั้ง ข้าว หมู ไก่ กุ้ง อาหารสัตว์ ปุ๋ย พืช พลังงาน 

นอกจากนั้นยังคุมเทคโนโลยีสื่อสาร ทั้งโทรบ้าน,โทรมือถือ,internet และมีสื่อในมือ คือ truevision  


สรุปคือ CP จะคุมระบบค้าปลีก+ค้าส่ง ทั้ง modern trade และ traditional trade ครบวงจร  โดยมี 7-11 ; makro และ Lotus


ก่อนหน้านี้คอลัมน์ Market-Think ของสรกล อดุลยานนท์ เรื่อง CP BANK?  ในประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 

ก็วิเคราะห์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ข่าว"เซเว่นอีเลฟเว่น" และกลุ่มทรู ซื้อหุ้น LH BANK ([จากกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ : L&H) 

เป็นจริง เราคงได้เห็น "เกมใหม่" ในแวดวงการเงิน เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา "ซีพี" มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลายครั้ง 

*ครั้งแรก คือ การเข้าซื้อหุ้นของ "ผิงอัน" บริษัทประกันรายใหญ่ของจีน ซึ่งเสน่ห์ของ "ผิงอัน" คือ เงินสดจากเบี้ยประกันที่นอนนิ่งอยู่ในบริษัท

**ครั้งที่สอง คือ การซื้อ "แม็คโคร" ของ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ทำให้ "ซีพี" กลายเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการค้าส่งและค้าปลีก

***และครั้งที่สาม คือ การดึง "ไชน่าโมบาย" ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน มาถือหุ้นใน "ทรู"  


ดังนั้น หาก "ทรู" และ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ซื้อ LH BANK จริง จะเป็นการเคลื่อนตัวทางยุทธศาสตร์ของ "ซีพี" ครั้งที่ 4 ในรอบ 2 ปี 

เพราะเซเว่นอีเลฟเว่น มีสาขาอยู่ 8,000 สาขา เป็นทำเลที่ดีที่สุดสำหรับตู้เอทีเอ็ม มี "เคาน์เตอร์เซอร์วิส" ที่สามารถรับจ่าย รับโอน รับจองตั๋ว ที่มีประสิทธิภาพยิ่ง


สรุปยอดรายได้เมื่อปีที่แล้ว รายได้ของ 

..."เซเว่นอีเลฟเว่น" 284,760 ล้านบาท

...แมคโคร 129,780 ล้านบาท 

รวมกันเป็นตัวเลขกลม ๆ ประมาณ 410,000 ล้านบาท หรือเดือนละ 34,000 ล้านบาท 

เมื่อรวมโลตัสเข้าไปอีกรายได้ก็จะเพิ่มขึ้นแตะ 5 แสนล้านบาทในอนาคตไม่ยากนัก


ดังนั้นการซื้อเทสโก้โลตัสครั้งนี้จึงเป็นก้าวเดินการเทคโอเวอร์ครั้งที่ 4   ก่อนที่จะไปซื้อ LH BANK ในอีกไม่นานเป็นก้าวที่ 5


CPจะกลายเป็นเบอร์ที่เท่าไรของโลกไม่แน่ใจ 


!!*!! 

แต่จำได้เคยมีใครพูดว่า ผมสนับสนุนนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาล มีอะไรผมรับผิดชอบเอง ประเทศเสียหายไปหลายแสนล้านบาท ทำไมเงียบเป็นเป่าสากเลยเถ้าแก่CP

เชียร์นโยบาย ค่าแรงสูง กับราคาข้าวสูง (2 สูง) ผลก็เป็นอย่างนี้ที่เห็น

......เศร้า


เศรษฐีไทยที่มารวยระยะ 50 ปีหลังนี้ ส่วนใหญ่ อาศัยอำนาจรัฐไปผูกขาด หรือเอื้ออำนวยธุรกิจตัวเอง 

ใครๆก็คิดกินรวบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ แต่ในระบบเศรษฐกิจเสรี ไม่ง่ายที่ใครสามารถทำได้ อย่างแน่ๆถ้ารัฐบาลไม่ยอม


อเมริกาถึงกับออกกม.anti trust ขัดขวางการกินรวบเช่นนี้ ถ้าท่านธนินทร์แน่อย่างที่ทำในเมืองไทย ทำไมธุรกิจที่ฮ่องกง จีน จึงไม่เก่งแบบที่ทำในไทย


makro ที่จีนไม่ทำกำไร จะล่มเอา ธุรกิจเรื่องไก่ก็ไม่แน่แบบในไทย..รายย่อยทำได้ถูกกว่า 

..สู้เขาไม่ได้ 

ทุกธุรกิจที่ทำนอกประเทศแค่อยู่รอด 

เมื่อไม่มีอำนาจรัฐหนุน ท่านก็เป็นแมวน้อยเชื่องๆตัวหนึ่งเท่านั้น 


..สำหรับผม ธุรกิจไทยที่แน่จริงข้ามโลกคือกระทิงแดงเท่านั้น 

เพราะแข่งกับเขามือเปล่า ไม่มีรัฐช่วย


!!**!!

มีอีก 

จำได้หรือไม่ว่าใครสนับสนุนให้รัฐบาลทักษิณปลูกยางในทุกภาค เพื่อส่งไปขายจีน โดยบอกว่าเป็น นํ้ามันบนดิน และเดินสายพูดเรื่องนี้อยู่หลายปี 

พอยางล้นตลาด ราคาตก เงียบเลย ไม่เห็นแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย

..นี่เป็นอีกเรื่องของคุณธนินทร์ 

คนไทยไม่ได้ลืมง่ายหรอก


== > สมัยก่อน

ตอนทำ 7-11 ใหม่ๆ 

CP ไม่อยากเสี่ยง ก็ชวนคนเข้ามาลงทุนหาซื้อที่ดินทำเลดีๆ พร้อมสร้างอาคาร แล้วมาเปิด 7-11 เอาของ CP ไปขาย 

คนลงทุนก็ไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน หวังกินกำไรจากที่CPแบ่งให้  


ต่อมาระยะหนึ่ง CPก็เล็งเฉพาะร้านที่ยอดขายสูง กำไรงาม แล้วเข้าไปเสนอซื้อคืน เพื่อ CP จะทำเอง

ร้านไหนยอมขายก็จบไป

แต่ถ้าร้านไหนไม่ขายให้ CP...ลงทุนเอง เปิดร้านใหม่ในทำเลนั้น แข่งกันไปเลย เอาแบบให้เจ๊งไปข้างหนึ่ง = ถ้าร้านนั้นไม่ขาย มันก็จะซื้อที่ใกล้ๆ ออกมาตั้งแล้วแข่งกับเจ้าเดิม หน้าปากซอยบ้านผม  มี 7-11   3ร้าน แต่ละร้านห่างกันไม่ถึง 50 เมตร   


      ...........................

คนที่คิดกินรวบทุกอย่าง

ต้องพึ่งพาใช้อำนาจรัฐ

ทำให้สังคมเมืองและ ชนบทเป็นทาสมันตลอดกาล  ฆ่าคนในสังคมทั้งเป็น   

อย่างนี้หรือ เป็นคนที่น่ายกย่อง คำพูดดูสวยหรู

..เราจะอยู่กับชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน และ ผู้เลี้ยงสัตว์   อย่างพันธมิตร   

..แต่ในใจ กูจะใช้สัญญาทาส มาควบคุมให้พวกมึงเป็นหนี้กูตลอดไป

กูมีแต่ได้กับได้  

บริษัทอื่นเจ๊งหมด 

โดยเฉพาะ ร้านค้า  SME ทั้งหลาย  


สนับสนุนเลี้ยงไก่  ไข่    ปลูกยาง

แล้วกูจะเป็นพ่อค้าคนกลางดูดเงินจากพวกมึงอีกที


ทุกวันนี้ เขาอาศัยอำนาจรัฐ สร้างเงื่อนไขให้รัฐบาลอนุมัติธุรกิจที่กำไรง่ายๆมากๆให้กับร้าน 7-11  เช่น

นาโนแบงคิ้ง 

ขายยา 

ขายล็อตเตอรี่ 

ตอนนี้ก็แย่งขายกาแฟสดกับร้านกาแฟแล้ว

ทุกอย่างอาศัยอำนาจรัฐทั้งนั้น 


เจ้าตำรับ 7-11 ญี่ปุ่น 

ยังต้องงงงวย มันทำได้อย่างไร


ตอนมี 7-11 ใหม่ๆ 

คนขับรถลูกน้องเพื่อน ลาออก เอาบ้านไปจำนอง ดาวน์รถปิ๊คอัพ ไปวิ่ง fleet logistics ให้ 7-11 

แค่ 1-2 ปี  

Volume 7-11 สูงมาก 

CP เลิกจ้าง ทำlogistics เอง 

ลูกน้องเพื่อน บ้านติดจำนอง รถยังผ่อนไม่หมด ถูกลอยแพ 


นี่แหละวิธีการสร้างอาณาจักรธุรกิจของCP 

อาศัยคนอื่นลงทุนเสี่ยงขาดทุน 

แต่หากได้กำไรดีจะ Take over


Cr.พท.พญ.กมลพรรณ

เชิญร่วมกันสร้างสภาประชาชน เพื่อสานพลังประชาชนทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ

  ท่านสนับสนุนแนวทางสร้างพลังประชาชนตั้งแต่ระดับหมู่บ้านทั่วประเทศหรือไม่? หากสนใจ เชิญปาวารณาตัวผ่านดร.​ เพียงดิน รักไทย ตามลิ้งค์นี้ครับ ...